'เพนกวิน' ประกาศหน้าสน.ประชาชื่นยืนยันสู้ต่อ จับตากองทัพรัฐประหาร

เมื่อเวลา 22.42 น.นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน แกนนำคณะราษฎร แถลงหน้าสถานีตำรวจนครบาลประชาชื่นว่า นี่คือสารจากในคุกที่กล่าวขึ้นในนามที่ถูกปล่อยตัวในวันนี้ทุกคน ตลอดเวลากว่า 20 วันที่สิ้นอิสรภาพมีแต่ความขมขื่นทางใจ ไม่ใช่ความขมขื่นทางกาย ที่เราเข้าคุกนั้นเราเข้าไปในฐานะนักสู้ เราขมขื่นเพราะเรารู้สึกเสียใจที่ไม่อาจไปสู้กับประชาชนหลังจากที่ถูกพรากอิสรภาพไปแล้วได้ แต่กระนั้นการชุมนุมที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราเข้าคุกนั้นเท่าที่ติดตามข่าวพบว่าเป็นเครื่องยืนยันเรื่องกระบวนการประชาธิปไตยว่ากรงอาจขังดวงดาวได้แต่ไม่อาจขังแสงดาวได้ แม้จะจับดวงดาวเข้าไปในกรงขังกี่ดวง แต่ดวงอีกหลายดวงจะปรากฎขึ้นทั่วฟ้าไทย 

"ผมเชื่อว่าทุกคนคิดและรู้สึกเหมือนกัน ผมขอปฏิญาณกับทุกคนว่าหัวใจของเรายังคงมีศรัทธามั่นต่อสถาบันประชาชน สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้พัดมาถึงประเทศไทยแล้ว สายลมนี้จะหอบเอาดอกไม้แห่งอุดมการณ์ไปให้ทั่วแผ่นดิน เราจะสู้กับความมืดด้วยแสงดาวและจะสู้กับทมิฬมารด้วยดอก สู้กับปืนด้วยโบว์ขาว นี่เป็นเรื่องสำคัญที่เรารู้สึกว่าเราจำเป็นต้องพูด" 

"ผมไม่ได้มีโอกาสตามข่าวมากนักเพราะเรือนจำไม่มีทีวีให้ดู  แต่สถานการณ์เท่าที่ทราบ สายลมแห่งประชาธิปไตยได้พัดเข้ามา ทว่าต้นไม้เผด็จการยังไม่คายอำนาจของตัวเอง เขาย่อมจะต้องหาสถานการณ์มาค้ำยันตนเอง ดังนั้น สิ่งที่เผด็จการต้องการ คือ ความรุนแรงและความวุ่นวาย จงใจสร้างสถานการณ์ม็อบชนม็อบเพื่อเป็นข้ออ้างในการยึดอำนาจตัวเอง ขอให้พวกเราอย่าประมาท เอาให้ชัดว่าเราเป็นม็อบสันติชน เสรีชนอย่างเราปฏิเสธความรุนแรง หากเกิดความรุนแรงขึ้นจะไม่ได้มาจากพวกเราแต่จะมาจากพวกคุณ ดังนั้น เมื่อเห็นตำรวจทหารตั้งแถวหลวดหนามและกระบอกปืน ขอให้ผูกโบว์และปักดอกไม้" นายพริษฐ์ กล่าว

ด้าน น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง กล่าวพร้อมทั้งน้ำตาตอนหนึ่งว่า วันที่ถูกจับนั้นยอมรับว่ามึนและท้อ เพราะเราสู้เพื่ออิสรภาพแต่กลับถูกพรากเสรีภาพไป ตอนอยู่ในเรือนจำก็ได้มีโอกาสได้เจอกับเพนกวินและส่งกำลังใจให้กันและเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา เพราะแต่ละวันที่ผ่านไปอยู่ด้วยความศรัทธาว่าประชาชนที่อยู่ข้างนอกเรือนจำนั้นจะยังสู้กันต่อไป 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นรุ้งได้นำประชาชนร่วมกันร้องเพลงแสงดาวแห่งศรัทธา ซึ่งแต่งโดยจิตร ภูมิศักดิ์ เมื่อครั้งถูกขังอยู่ในเรือนจำ