ราชกิจจาฯ แพร่คำสั่ง 'ศปม.' ฉบับที่ 9 สกัดจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
ราชกิจจาฯ แพร่คำสั่ง "ศปม." ฉบับที่ 9 คุมเข้มกิจการได้รับการคลายล็อคดาวน์ ตั้งด่าน ป้องกันอาชกรรม การชุมนุมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ สกัดจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ป้องกันโควิด-19
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ คําสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ที่ 28/2563 เรื่อง การปฏิบัติตามข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 9) เพื่อกําหนดแนวทางให้สอดคล้องกับการขยายระยะเวลา การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ลงวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโควิด-19 ดังนี้
1. ให้การปฏิบัติตามคําสั่งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง ในเรื่องปรับการตั้งจุดตรวจควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด - 19 จัดตั้งคณะตรวจการประกอบกิจการ และกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ มอบหน้าที่และอํานาจ และแต่งตั้ง หัวหน้าคณะตรวจการประกอบกิจการและกิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลาย ยังมีผลใช้บังคับและปรับ การปฏิบัติให้สอดคล้องกับแนวทางที่กําหนด รวมทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจกิจการและกิจกรรม ที่ได้รับการผ่อนคลาย
โดยเฉพาะกิจการและกิจกรรมที่มีประชาชนเข้าร่วมจํานวนมาก และสถานประกอบการ ที่มีแนวโน้มการใช้แรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริม และประชาสัมพันธ์ให้สถานประกอบการและประชาชนตระหนักและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ตลอดจนแจ้งเบาะแสแก่ทางราชการ หากพบว่ามีผู้ละเมิดมาตรการป้องกันโรค
2. ดํารงความต่อเนื่องในการตั้งจุดตรวจร่วม และชุดสายตรวจร่วม เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ การก่ออาชญากรรม การรวมกลุ่มชุมนุมที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กําหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วย การชุมนุมสาธารณะหรือมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค หรือการกระทําอันเป็นการ ฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน
3. เพิ่มความเข้มงวดในการเฝ้าตรวจ สกัดกั้น และจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ในเขตรับผิดชอบ โดยเฉพาะพื้นที่ตามตะเข็บชายแดน ช่องทาง ท่าข้ามธรรมชาติ พื้นที่เพ่งเล็ง พื้นที่เฝ้าระวัง และพื้นที่สนใจ ทั้งทางบกและทางน้ํา โดยประสานใช้กลไกด้านการปกครองในระดับพื้นที่ ในการเฝ้าระวัง ค้นหา และการแจ้งเบาะแสผู้หลบหนีเข้าเมือง ตลอดจนเพิ่มมาตรการ การตรวจสอบบุคคล และยานพาหนะในพื้นที่จังหวัดชายแดนและพื้นที่ชั้นใน โดยเฉพาะขบวนการนําพาและผู้ให้ที่พักพิง กับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
4. การดําเนินการต่อแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ถูกจับกุม ให้ดําเนินการ สอบสวนให้ได้ข้อมูลด้านการลักลอบเข้าเมือง เพื่อใช้เป็นข้อมูลสําหรับการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
พลเอก เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
สั่ง ณ วันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2563