ตราฉัตรเปิด 46 จุดรับซื้อข้าวทั่วประเทศ ช่วยเกษตรกรแก้ปัญหาราคาตกต่ำ
ตราฉัตร ร่วมกับพันธมิตรภายใต้เครือเจริญโภคภัณฑ์ เดินหน้าโครงการ “ข้าวชาวนาไทย ปี 3” เปิดจุดรับซื้อข้าว46 จุดทั่วประเทศ แก้ปัญหาราคาตกต่ำหลังโควิด ต้องชะลอส่งออก
นายฐิติ ลุจินตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ธุรกิจการค้าข้าวและอาหารในประเทศและต่างประเทศ เปิดเผยว่า “อุตสาหกรรมข้าวไทย ปี 2563 มีแนวโน้มตกต่ำ ทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่าการส่งออก
ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่และเป็นผู้ผลิตข้าวที่สำคัญของโลก อาทิ จีน อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ มีนโยบายลดการพึ่งพา ชะลอการซื้อ เน้นเพิ่มผลผลิตข้าวภายในประเทศ ประกอบกับหลังเกิดการแพร่กระจายเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นผลให้ตั้งแต่เดือนมีนาคม การส่งออกหยุดชะงัก ทำให้สินค้าเกษตรส่งออกหลายชนิด รวมถึงข้าวหอมมะลิได้รับผลกระทบไปด้วย
ในขณะที่กลุ่มผู้บริโภคทั้งตลาดไทยและต่างประเทศมีกำลังการซื้อที่หดตัวลง หันไปซื้อข้าวคุณภาพใกล้เคียงหอมมะลิที่มีราคาถูกกว่า ประกอบกับปีนี้ปริมาณภาวะน้ำฝนค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีปริมาณมากกว่าปีก่อน ซึ่งปัจจัยต่างๆ นี้ ส่งผลทำให้เกษตรกรผู้ปลูกต้องเผชิญวิกฤติราคาข้าวตกต่ำ
ดังนั้นบริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ “ข้าวตราฉัตร” จึงจัดโครงการ “ข้าวชาวนาไทย ปี 3” ขึ้น เพื่อเปิดจุดรับซื้อข้าวเกี่ยวสดตรงจากเกษตรกรชาวนา ผ่านโรงสีท่าข้าวสหกรณ์
สกก. รวมทั้ง สกต.เพิ่ม รวมทั้งหมด 46 จุด ทั่วประเทศ อาทิ จังหวัดเชียงราย พะเยา ยโสธร สุรินทร์ มหาสารคาม บุรีรัมย์
ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เป็นต้น ภายใต้พื้นที่โครงการพัฒนาระบบการปลูกข้าวเพื่อความยั่งยืน ของบริษัทฯ
รวม 190,198 ไร่
อีกทั้งมีเกษตรกรสมาชิกโครงการฯ ผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ทั้งหมด 9,509 ราย บริษัทจะรับซื้อในราคานำตลาดให้ราคารับซื้อบวกเพิ่มกับเกษตรกรชาวนาจากราคาทั่วไปอีก ตันละ 300 บาท (ความชื้นไม่เกิน 30%) ข้าวที่มีการรับซื้อทั้งหมดจะนำมาเข้ากระบวนการผลิตปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุงภายใต้แบรนด์ “ข้าวชาวนาไทย” พร้อมช่วยเกษตรกรชาวนาไทย ผลักดันสินค้าสู่ตลาดผู้บริโภคในราคาพิเศษ “ข้าวชาวนาไทย เป็นข้าวหอมมะลิแท้ 100% (อายุข้าว 1-3 เดือน) มีจุดขายพิเศษคือ ขาวใส หอม นุ่มเหนียว อร่อย เป็นข้าวหอมมะลิแรกเกี่ยวคุณภาพดีสดใหม่จากนา รับซื้อโดยตรงจากชาวนาไทย ผ่านกระบวนการผลิตจากโรงงานขนาดใหญ่ และทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ซึ่งจะเปิดจำหน่ายล็อตแรก ขนาด 5 กก.