'ชวน' ยัน ติดต่อสมานฉันท์แค่อดีตนายกฯในไทย
'ชวน' ยัน ติดต่อสมานฉันท์แค่อดีตนายกฯในไทย ยกเว้น 'บิ๊กสุ' หลังพบป่วยหนัก แจง ขอเวลาตรวจกฎหมายประชามติก่อนที่ชี้ขาด'
เมื่อเวลา 09.15 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านออกมาคัดค้านไม่ควรบรรจุร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาให้เสร็จไปในคราวเดียวแต่ควรพิจารณาตามกระบวนการปกติที่ต้องเริ่มที่สภาผู้แทนราษฎรว่า เรื่องนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายดูอยู่ว่ากฎหมายใดจะเข้าสภาอย่างไร แต่มีคนค้านว่าร่างกฏหมายฉบับนี้ไม่ได้ทำประชาพิจารณ์ ซึ่งจากที่ได้อ่านดูรายละเอียดในรายงานเห็นว่าได้ทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว ทั้งนี้ การพิจารณาต้องเป็นไปตามกฏหมาย การประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาได้กี่อย่าง มีกำหนดไว้อยู่แล้ว ซึ่งตนจะเป็นผู้พิจารณาว่าจะเข้าข้อบัญญัติของกฏหมายหรือไม่ ทั้งนี้ ทางฝ่ายรัฐบาลเสนอมาให้พิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา
เมื่อถามว่าถ้ามีการบรรจุร่างกฏหมายดังกล่าวเป็นวาระพิจารณาในที่ประชุมร่วมรัฐสภา แล้วฝ่ายค้านนำไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัย จะทำให้การออกกฎหมายล่าช้า หรือไม่ นายชวน กล่าวว่า การยื่นศาลรัฐธรรมนูญบางเรื่องสมาชิกอาจเข้าชื่อกัน แล้วยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญได้เลย แต่บางเรื่องก็ต้องยื่นผ่านประธานรัฐสภา เพื่อให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญต่อ เช่น ยื่นให้ศาลวินิจฉยคุณสมบัติ สส. เป็นต้น
เมื่อถามถึงความคืบหน้าของการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ โดยได้มีการติดต่อประสานงานไปยังนายทักษิณ ชินวัตร และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรีที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ว่า ตนคุยกับอดีตนายกที่อยู่ในประเทศไทย ซึ่งได้คุยหมดแล้ว ยกเว้น พล.อ.สุจินดา คราประยูร เพราะท่านป่วย จึงไม่ได้คุย และเท่าที่มีเวลาได้ติดต่อประสานงานพูดคุยกับคนที่ทำงานด้านนี้ เพราะคิดว่าเฉพาะหน้าเป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องแก้ไป แต่ในระยะยาวต้องป้องกันความขัดแย้ง ความขัดแย้งทางการเมืองต้องมีตลอดไปซึ่งไม่ได้แปลกอะไร แต่ประชาชนขัดแย้งกันเอง ถ้าย้อนหลังไปดูจะมีบางช่วงที่เกิดขึ้นจริงๆ เกิดจากการกระทำ ส่วนใหญ่คือฝ่ายการเมืองที่เป็นผู้กระทำให้เกิดความขัดแย้ง ชนิดที่คนหนึ่งเข้าจังหวัดนั้นไม่ได้ จังหวัดนี้ไม่ได้ ซึ่งต้องศึกษาว่าจะป้องกันอย่างไร เพราะเรื่องอดีตบางเรื่องสามารถนำมาศึกษาเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นได้