SAWAD แกร่งไตรมาส3 กำไร 1.2 พันล้าน ชูระวังปล่อยกู้-คุมเข้มหนี้เสีย
“ศรีสวัสดิ์”โชว์กำไรไตรมาส3 1.2 พันล้าน รับรายได้ดอกเบี้ยบาทกระฉูด 2 พันล้าน หลังพอร์ตลูกหนี้เติบโตระดับ 4 หมื่นล้าน ชูนโยบายปล่อยกู้ระมัดระวัง-ดูแลลูกค้าใกล้ชิด-หวังคุมเข้มหนี้เสีย
นางสาวดวงใจ แก้วบุตตา กรรมการผู้จัดการบริษัทศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่นจํากดั (มหาชน)หรือ SAWAD เปิดเผยว่า ผลการดําเนินงานไตรมาส 3/2563 บริษัทและบริษัทย่อยมีกําไรสุทธิ 1,283.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 276.66ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 27.49% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี2562 ที่มีกําไรสุทธิ 1,006.53 ล้านบาท
สําหรับรายได้รวมของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 3/2563 ยังมีอัตราการเติบโตอย่าง ต่อเนื่อง โดยมีรายได้ดอกเบี้ย 1,957.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.02 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.51% เมื่อเทียบ กับงวดเดียวกันของปี 2562 ที่มีรายได้ดอกเบี้ย 1,909.93 ล้านบาท
ซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของพอร์ตลูกหนีจาก 36,644.27 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตรมาส 3/2562 เป็น40,771.34 ล้านบาท ในช่วงสิ้นสุดไตร มาส3/2563 คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้น 11.26%
ทั้งนี้การเติบโตของพอร์ตลูกหนี้จากการขยายสาขาอย่าง ต่อเนื่อง ตามนโยบายของกลุ่มบริษัท โดยล่าสุดอยู่ที่จํานวน 4,660 สาขา
ขณะที่มีรายได้อื่น 733.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 101.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.08 % เมื่อเทียบกับ งวดเดียวกันของปี2562 ที่มีรายได้อื่น 631.67 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้คำนายหน้าประกัน
"การเดิบโตของพอตสินเชื่อมาจากการขยายสาขาต่อเนื่อง ตามนโยบายของกลุ่มศรีสวัสดิ์จากสิ้นปี 2562 มีจำนวน 4,080 สาขา เพิ่มเป็น 4,660 สาขา ในปัจจุบัน และปีหน้าคาดว่าจะมีการขยายสาขาครอบคลุมทั่วทั้งประเทศจำนวน 5,000 สาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้สินเชื่อ"นางสาวตวงใจ กล่าว
ขณะที่ แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4 ยังมีอัตราเติบโตต่อเนื่อง โดยกลุ่มศรีสวัสดิ์ จะเน้นการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวัง ดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด
รวมทั้งการควบคลุมตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล)ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม จากงวดไตรมาส3/2563 บริษัทมีเอ็นพีแอล 4.19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีเอ็นพี่แอล 4.31%
อย่างไรก็ตามในส่วนการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญนั้น ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการตั้งสำรองในอัตรที่เกินมาตฐานกำหนดอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ได้มีปัญหาเรื่องดังกล่าว
นางสวดวงใจยังได้กล่าวถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจว่าในปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผ่อนคลายลงค่อนข้างมาก หลังจากที่มีกระแสข่วระบุว่าจะสามารถผลิตวัดชีนป้องกันได้
ในร็วๆนี้ซึ่งทางกลุ่มศรีสวัสดิ์ก็เตรียมความพร้อมในการรุกธุรกิจอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าต้นปีหน้าจะมีความชัดเจนมากขึ้น
"ที่ผ่านมา แม้สภาพเศรษฐกิจโดยรวมจะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด- 19 แต่กลุ่มศรีสวัสดิ์ได้ รับผลกระทบน้อยมาก เพราะมีฐานลูกค้ากระจายไปทั่วประเทศ และกลุ่มลูกค้ายังมีความจำเป็นในการใช้สินเชื่อสูง และตอนนี้ทุกอย่างก็คลี่คลายในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งเราก็มีความพร้อมเต็มที่ ทั้งด้านเงินทุน ด้านสาขาที่ครอบคลุมทั่วประเทศ" นางสาวดวงใจ กล่าว