"มงคลกิตติ์" ซัด "บิ๊กตู่" หลายประเด็น ก่อนถอนตัวร่วมรัฐบาล

       นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เมื่อช่วงดึกวันที่ 25 พฤศจิกายน เพื่อประกาศถอนตัวจากการเข้าร่วมรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีเหตุผลสำคัญ คือ เหตุการณ์ที่หน้ารัฐสภา เมื่อ17 พฤศจิกายน พบจัดม็อบชนม็อบ แบ่งแยกประชาชนเป็น 2 ฝ่าย รัฐบาลพยายามปกป้องตนเอง ไม่แน่ใจว่าจัดตั้งมากน้อยหรือไม่ แต่รู้กันว่าไม่สมควรทำ ที่นำสถาบันเบื้องสูงปกป้องการครองอำนาจ และสร้างความแตกแยก จนปัจจุบันไปไกลมากกว่าคำว่ารัฐบาล อีกทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ คือบุคคลที่ทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างแสนสาหัส

       นายมงคลกิตติ์ ระบุด้วยว่าขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจ พบการเอื้อประโยชน์เชิงนโยบายให้นายทุน หรือกลุ่มเจ้าสัว จำนวนมาก ซึ่งชัดเจนหลังจากที่รัฐบาลแก้ไข กฎหมายว่าด้วยสปก. เพื่อจัดตั้งโรงงานน้ำตาล โรงงานเอกชนในพื้นที่สปก. ทั้งที่ควรเป็นที่ดินให้ประชาชน  ขณะที่การกู้เงินตนเข้าใจ แต่ไม่ใช่การกู้เงินเพื่อแจกเท่านั้น นอกจากกนั้นคือความไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ ตามที่ประชาชนต้องการให้มีตัวแทนส.ส.ร. แก้ไขทั้งฉบับ

       “มองอนาคตไม่เห็นที่พล.อ.ประยุทธ์ จะอยู่เป็นนายกฯ​ต่อไป และไม่เห็นอนาคตของประเทศจะเดินหน้าอย่างไร เมื่อประเทศแตกแยก ไม่สามารถอยู่ร่วมกับท่านได้ และผมไม่สามารถสนับสนุนท่าน เพื่อให้ท่านมีอำนาจใช้กฎหมายปราบปรามประชาชน โดยเฉพาะ มาตรา 112 ทำไมท่านไม่เจรจา หรือ ไกล่เกลี่ยกับคนรุ่นใหม่ด้วยตัวเอง ท่านเอาส.ว., ส.ส.รัฐบาล ปกป้องตนเอง ท่านไม่ใช่นายกฯจะสร้างปรองดอง สามัคคี  และลอยตัวอยู่เหนือปัญหา ” นายมงคลกิตติ์ ระบุ 

       นายมงคลกิตติ์ กล่าวด้วยว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ในอำนาจกว่า 6 ปี นานเกินไป อย่าบอกว่าเสียสละเพื่อประชาชน หรือปกป้องสถาบัน หรืออยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดิ์ดี หากเป็นจริง ฐานะชายชาติทหารต้องรู้จักเสียสละเพื่อให้ส่วนรวมเดินหน้า ประเทศสงบสุข ขณะที่ข้อเรียกร้อง 3 ข้อของคณะราษฎร ที่ให้นายกฯ ควรลาออก เปิดทางสรรหานายกฯ​ตามระบบรัฐสภา ให้นายกฯ​คนใหม่ กำกับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนแท้จริง และนายกฯ​ไม่มีผลประโยชน์ใดต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อบอกนายกฯ​ให้ออกไม่ได้ จึงตัดสินใจลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลแทน เพื่อให้คิดให้บ้านเมืองเดินหน้า ประชาชนไม่แตกแยก

       “ตอนนี้ท่านไม่มีความดีเหลืออยู่ มีแค่ความโกรธที่ประชาชนมอบให้ และผมทนไม่ได้ที่ทำให้ประชาชนขัดแย้งกับสถาบันเบื้องสูง ทั้งนี้ผมขอเป็นฝ่ายค้านอิสระ และมุ่งมั่นทำตามนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์” นายมงคลกิตติ์ ระบุทิ้งท้าย