นายกฯชม'โคราช'สั่งปิด'บิ๊กเมาน์เท่น'ไม่ทำตามกติกาห่วงต้องชัตดาวน์อีกรอบ

ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี 2563 โดยในช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้กล่าวถึงการระบาดของโควิด-19 ว่า วันนี้มีผลกระทบจากโควิด แต่เราแก้ปัญหาได้ดีในระดับหนึ่ง ถือว่าดีกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงต้องช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น เพราะในโซเชียลมีเดียมีข้อมูลเต็มไปหมด ซึ่งต้องพิจารณากันด้วย ทุกคนต้องช่วยกันให้ประเทศผ่านพ้นไปให้ได้ในช่วงโควิด ถ้าเรารักษาระดับนี้ไปได้เรื่อยๆ เมื่อทุกอย่างกลับเข้าภาวะปกติ มีวัคซีน เราก็ดีขึ้นเพราะเราพร้อมทั้งหมด ดังนั้น ขออย่าทำลายในสิ่งที่ดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากเสร็จสิ้นการมอบรางวัล นายกฯ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเทศกาลดนตรีบิ๊กเมาน์เท่น ซึ่งสุ่มเสี่ยงปพร่ระบาดโควิด-19 จนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีคำสั่งปิด ว่า ผู้ว่าฯ มีสิทธิ์ มีอำนาจพิจารณา ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ปลดล็อคเพื่อให้มีการจัดคอนเสิร์ตหรือกิจกรรมได้ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามกติกา ก็ต้องปิด เพราะสิ่งสำคัญคือการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด -19 ก็เพื่อความปลอดภัยของพวกเรา ถ้ามีคนเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดใครจะรับผิดชอบ รัฐบาลต้องรับผิดชอบอีก โดยแต่ละพื้นที่ที่ต้องปฏิบัติเช่นเดียวกัน เพราะช่วงระยะเวลาต่อจากนี้จะมีการจัดงานคอนเสิร์ตการแสดงกิจกรรมมากมายก็ขอให้ปฏิบัติตามกติกาและทำให้ได้ตามนั้น ตนไม่ได้ขัดข้องกับใครและไม่ใช่การเมือง ตนไม่ต้องสั่ง ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเอง ตนขอชมเชยทางสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา (สสจ.นครราชสีมา)

เมื่อถามว่า การจัดงานเคาท์ดาวน์ช่วงเทศกาลปีใหม่ สามารถทำได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ต้องทำตามกติกา โดยเมื่อช่วงเช้าตนได้ประชุมศบค.วงเล็ก ว่าการจัดงานในช่วงต่อจากนี้จะต้องทำอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุด คือการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด เพราะถ้าหากมีการแพร่ระบาดในกรุงเทพฯ มันจะหนัก ต้องไปดูว่าแต่ละงานจะมีมาตรการอย่างไร ถ้าเราทำแบบเดิมๆ แล้วเกิดการระบาด รัฐบาลก็รับอีก แต่เรามีมาตรการการควบคุมและมีเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานเขาพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ทุกท่านต้องให้ความร่วมมือ

เมื่อถามว่า มีการเชื่อมโยงกับเรื่องการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มันมีการเมืองอะไรล่ะ จะไปเกี่ยวอะไร ตนก็ไม่รู้ว่าจะมีกิจกรรมอะไรในคอนเสิร์ต เขาก็ไปดูคอนเสิร์ตกันไม่ใช่หรือ ใครที่ทำก็ไปถามคนทำสิ ตนไม่ได้ไปตามเขาด้วยซ้ำไป

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนที่หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าการชุมนุมยังจะมีอยู่ต่อเนื่อง จะทำให้เกิดการระบาดหรือไม่นั้น ก็ต้องใช้มาตรการที่รัดกุม ทำตามกฎหมาย อย่าทำผิดกฎหมายเท่านั้นเองหากละเมิดกฎหมายก็ต้องถูกลงโทษ ส่วนสถานการณ์มีความจำเป็นต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรง และห้ามชุมนุมเกิน 5 คน หรือไม่นั้น เรื่อนี้ยกเลิกไปตั้งนานแล้วแต่หากถึงจุดนั้นก็ต้องย้อนกลับมาใหม่ แต่วันนี้ยังไม่มี ตนก็กังวลว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เช่นการไปจัดคอนเสิร์ตหากมีการแพร่ระบาดออกมาข้างนอกจะทำอย่างไร ทุกอย่างก็ต้องกลับไป ชัตดาวน์ใหม่ทั้งหมด ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน การใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินต้องใช้ในสิ่งที่จำเป็น