สตม. ทลายแก๊งมังกรจีน PHISHING หลอกเอารหัส OTP ข้อมูลส่วนบุคคลผู้เสียหาย
สตม. ทลายแก๊งมังกรจีน PHISHING หลอกเอารหัส OTP และข้อมูลส่วนบุคคลผู้เสียหายมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
กรณี สตม. ทลายแก๊งมังกรจีน PHISHING หลอกเอารหัส OTP และข้อมูลส่วนบุคคลผู้เสียหายมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติ ที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความ สงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการการะทำความผิดนั้น
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พรชัย ขันตี รองผบช.สตม. ,พล.ต.ต.ณฐพล แสวงกิจ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รองผบช.สตม., พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รองผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ
ทำการจับกุมชาวจีน 3 ราย ข้อหาเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้วยเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 4 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจค้นเมือง และเจ้าหน้าที่ ศปชก.สตม. ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนและเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ว่ามีกลุ่มคนร้ายได้ทำการส่ง ข้อความ sms เข้าไปยังมือถือของผู้เสียหายโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์และต้องการให้ลูกค้า กรอกข้อมูลลงในแพตฟอร์ม เพื่อทำการอัพเกรดระบบธนาคารออนไลน์ จากนั้นเมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ทำการ กด LINK ที่ผู้ต้องหาส่งมาให้ซึ่งเมื่อกดแล้วจะแสดงแพตฟอร์มเป็นรูปแบบของธนาคารไทยพาณิชย์ให้กรอกข้อมูล ส่วนตัวรวมทั้งรหัส OTP จากนั้นเมื่อผู้เสียหายกรอกข้อมูลแล้วทางผู้ต้องหาก็จะเอาข้อมูลส่วนตัวรวมทั้งรหัส OTP ไปและทำการโอนเงินออกจากบัญชีของผู้เสียหาย ซึ่งจากการสืบสวนตอนนี้ มีผู้เสียหายจำนวนมากและความเสียหายหลายล้านบาท
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้ทำการสืบทราบจนทราบว่า ขบวนการนี้เป็นกลุ่มขบวนการของคนจีนและไต้หวันที่อยู่ในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยได้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ ซึ่งได้มีคนร้ายชาวไต้หวันซึ่งทำหน้าที่ใน การสร้างแพลตฟอร์มเลียบแบบธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อให้ผู้เสียหายที่หลงเชื่อทำการกรอกข้อมูลส่วนตัวเช่น ชื่อ วันเดือนปีเกิด หมายเลขบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ รวมทั้งรหัส OTP และจากนั้นได้นำเอา LINK ของ แพลตฟอร์มดังกล่าวส่งผ่านระบบข้อความ SMS ให้กับผู้เสียหายอ้างว่าเพื่อทำการอัพเกรดระบบธนาคาร เมื่อ ผู้เสียหายหลงเชื่อแล้วจะทำการกรอกข้อมูลลงในแพลตฟอร์มและคนร้ายชาวไต้หวันจะทำการเอาข้อมูลดังกล่าวไป สมัครลงแอพพลิเคชั่น SCB EASY ลงในโทรศัพท์ของคนร้ายชาวไต้หวันและจากนั้นจะทำการโอนเงินออกจากบัญชี ของผู้เสียหายเข้าสู่บัญชีที่ MR.YONG HUA สัญชาติจีน ซึ่งทำหน้าที่ในการจัดหาบัญชีและจัดหาคนถอนเงินได้แจ้ง ไว้ เมื่อเงินโอนเข้ามายังบัญชีของกลุ่มผู้ต้องหาแล้วนั้นจะทำการถอนเงินและนำเงินไปมอบให้กับ MR.YUE DIAN เพื่อทำการรวบรวมเงินและโอนเงินไปยัง MR. PEI HONG เพื่อทำการแลกเปลี่ยนเงินจากเงินสกุลไทยเป็นเงิน ดอลลาร์สหรัฐดิจิตอล (USDT) แล้วทำการโอนกลับไปหาบัญชีเงินดอลลาร์ดิจิตอลที่MR.YUE DIAN แจ้งหรือโอน ตรงไปยังคนร้ายชาวไต้หวันที่ทำการแจ้งไว้ในกลุ่ม
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบทราบจนทราบว่า 2 ชาวจีน อยู่บริเวณซอยเจริญกรุง 91 แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร จากนั้นวันที่ 12 ธันวาคม2563 เวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ทำการ จับกุมในข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุดลง” และชาวจีนอีก 1 รายจากการที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมและทำการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย เป็นการชั่วคราวจากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจค้นพบสมุดบัญชี โทรศัพท์พร้อมซิม คอมพิวเตอร์ บัตรกดเงินรวม 88 รายการ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบทราบว่า ชาวจีนรายที่ 3 ได้พักอยู่บริเวณ ซอยเคหะ ร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการไปตรวจสอบ และพบผู้ต้องหาเดินอยู่บริเวณริมถนน จึงได้ทำการจับกุมในข้อหา“เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ใน ราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิผู้ต้องหาทราบและนำตัว ผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับว่าเงินที่ได้มานั้นจะมีการแบ่งผลประโยชน์กันในลักษณะของการหักเปอร์เซ็นต์ที่ได้ แบ่งไปตามแต่ละขั้นตอนเช่น ขั้นตอน การกดเงิน ขั้นตอนการโอนเงิน และขั้นตอนการแลกเปลี่ยนเงิน
สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความ เสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง