'เอเซียพลัส'ชี้ บาทแข็ง หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้าทุก1หมื่นล้าน ดันดัชนีขึ้น4%
บล.เอเซีย พลัส เผย แนวโน้มค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง หนุนฟันด์โฟลว์ไหลเข้ามากขึ้น เหตุมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดแรงซื้อทุก1 หมื่นล้านบาท ดันหุ้นไทยขึ้น 3 – 4% แนะลงทุนหุ้นใหญ่รับเป้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติ
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เอเซีย พลัส ระบุ การที่สหรัฐฯ เพ่งเล็งว่าประเทศไทยอาจมีการแทรกแซงค่าเงินบาท ถือเป็นข้อจำกัดสำหรับการออกมาตรการควบคุมค่าเงินบาทของ ธปท. ส่งผลให้ค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มแข็งค่าต่อ โดยล่าสุดอยู่ที่ 29.8 บาทต่อดอลาร์
ส่งผลให้ต่างชาติตัดสินใจลงทุนในตลาดการเงินไทยง่ายขึ้น เพราะมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน (Fx Gain) เพิ่มเติม และหากพิจารณาเป็นรายตราสารจะมีรายละเอียดดังนี้
ตลาดตราสารหนี้ไทยอาจมีเม็ดเงินบางส่วนย้ายไปลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น เนื่องจากล่าสุด Bond Yield 1 ปี ของไทยลดลงมาต่ำกว่าปกติอยู่ที่ 0.42% ซึ่งต่ำกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.5% อีก ทำให้เม็ดเงินน่าจะไหลเข้าตลาดตราสารหนี้จำกัด และมีโอกาสย้ายไปลงทุนในสินทรพย์เสี่ยงมากขึ้น
ตลาดหุ้นไทยได้แรงหนุนจากนักลงทุนต่างชาติหลายส่วน ตราบที่ค่าเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่อง ทั้งจากสถิติในอดีตเวลาค่าเงินบาทแข็งค่า Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นเสมอ, ต่างชาติมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม
และที่สำคัญคือ เวลา Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวเพิ่มขึ้นเสมอ โดยเดือนไหนก็ตามที่ Fund Flow จากต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น 82% และทุกๆ 1 หมื่นล้านบาทที่ Fund Flow ไหลเข้ามักจะผลักดันหุ้นไทยให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3 – 4%
สรุปคือ ค่าเงินบาทที่มีโอกาสแข็งค่าต่อ หนุนให้ Fund Flow มีโอกาสไหลเข้าตลาดหุ้นมากขึ้น และเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันให้ SET Index เดินหน้าต่อ
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำหุ้นขนาดใหญ่ที่มีแรงขับเคลื่อนหลักจาก Fund Flow อย่าง PTT วานนี้บริษัทประกาศให้สิทธจองซื้อหุ้น OR ในอัตราส่วน 95: 1 หุ้น และขึ้นเครื่องหมาย XB วันที่ 4 ม.ค. 64, ADVANC แรงผลักดันจากการเริ่มเดินหน้าสู่ยุค 5G และหุ้นที่มีแรงบวกเฉพาะตัวจากราคาหมูขึ้นแรง และได้ประโยชน์จากบาทแข็งค่า อย่าง TFG