แพทย์ใหญ่ทำเนียบขาวเตรียมฉีดวัคซีนโควิดสัปดาห์หน้า
นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐ และเป็นนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาว กล่าวว่า เขาจะเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในสัปดาห์หน้า
“ผมพร้อมจะรับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งผมหวังว่าจะเข้ารับการฉีดในอีกไม่กี่วันจนถึงช่วงต้นสัปดาห์หน้า” นายแพทย์ฟอซีกล่าว
ส่วนนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐ ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในช่วงเช้าวันศุกร์ (18 ธ.ค.)ตามเวลาสหรัฐ โดยมีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศผ่านทางเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ของสหรัฐ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับชาวอเมริกัน ซึ่งมีความกังวลเกี่ยวกับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนดังกล่าว
นอกจากนี้ นางคาเรน เพนซ์ ภรรยาของนายเพนซ์ รวมทั้งนายเจอโรม อาดัมส์ เจ้ากรมการแพทย์ทหารสหรัฐ ก็ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนดังกล่าวเช่นกัน ซึ่งจะเป็นวัคซีนเข็มแรก ก่อนที่จะได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 หลังจากนี้อีก 21 วัน
ด้านนายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ มีกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในสัปดาห์หน้า ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังไม่มีกำหนดเข้ารับการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด โดยทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์จะเข้ารับการฉีดวัคซีนก็ต่อเมื่อคณะแพทย์ของเขาแนะนำว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด
ทั้งนี้ ผลการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส พบว่า ผู้ถูกสำรวจเพียง 61% ที่ระบุว่าจะเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19
ขณะเดียวกัน สำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) ออกรายงานก่อนหน้านี้เตือนว่า ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ อิงค์ และโมเดอร์นา อาจมีอาการใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก (Bell?s palsy)
รายงานเปิดเผยว่า อาสาสมัครที่ได้รับวัคซีนของไฟเซอร์ 4 รายมีอาการ Bell?s palsy จากจำนวนทั้งหมด 43,000 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับวัคซีนของโมเดอร์นามีอาการ 4 รายเช่นกัน จากจำนวนทั้งหมด 30,000 ราย โดยจะมีอาการเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีนราว 22-32 วัน
นอกจากนี้ สำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (เอ็นเอชเอส) เปิดเผยว่า ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ หลังจากมีรายงานว่ามีผู้ที่เกิดอาการข้างเคียง หลังได้รับวัคซีนดังกล่าว