ตร.สั่งคุมเข้ม10จว.ชายแดน-เช็คเส้นทางแรงงานเมียนมา สกัดโควิดลาม
ผบ.ตร.วิทยุสั่งด่วน คุมเข้ม10จว.ชายแดน-เช็คเส้นทางแรงงานเมียนมา สกัดโควิดลาม
จากมีการตรวจพบประชาชนและแรงงานต่างด้าวในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครติดเชื้อโควิดจำนวนกว่าห้าร้อยรายนั้น พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เรียกประชุมด่วนกรณีการตรวจพบการแพร่ระบาดโควิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมกำชับแนวทางการปฏิบัติในส่วนของสำนักงาน
โดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร.เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ ได้มีวิทยุสั่งการด่วนเรียกประชุม “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ” เพื่อสั่งสรุปสถานการณ์และกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด โดยการเข้าควบคุมพื้นที่ร่วมกับหน่วยปฏิบัติอื่นๆ ในการสกัดกั้นการเข้าออกของบุคคลที่มีความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรค การสอบสวนโรค และการตรวจหาผู้ที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษโดยเนื้อหาการประชุมได้แก่ การรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวม, สถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ จว.สมุทรสาคร และพื้นที่ใกล้เคียง
พล.ต.ต.ยิ่งยศ บอกอีกว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ได้สั่งการในหัวข้อหลักๆ สามประเด็นได้แก่ การเตรียมความพร้อมด้านการปฏิบัติและการบริหารเหตุการณ์, ความพร้อมด้านกำลังพล และความพร้อมด้านงบประมาณ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้เตรียมความพร้อมในด้านการบริการประชาชน โดยการให้จุดบริการต่างๆ ที่จะต้องสัมผัสใกล้ชิดกับประชาชน เช่น ห้องรับแจ้งความ ฯลฯ ให้ดำเนินการตามมาตรการในช่วงโควิดอย่างเข้มข้น โดยให้สำนักงานแพทย์ใหญ่เป็นหน่วยหลักในการสำรวจความพร้อม และให้พื้นที่อื่นๆ ประสานงานกับสาธารณสุขพื้นที่ร่วมสำรวจ ,สำรวจข้อมูลกำลังพล อุปกรณ์-วัสดุทางการแพทย์ ที่จะต้องดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ได้แก่ หน้ากาก เจลล้างมือ น้ำยา
นอกจากนี้ให้สำรวจความพร้อมของสถานที่ราชการ ยานพาหนะ และที่พักตำรวจ ให้เป็นไปตามมาตรการการป้องกันโรค ,ในการออกคำสั่งทางราชการต่างๆ โดยเฉพาะด้านสิทธิกำลังพลให้ดูแลให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย,ให้ทุก บช.ตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบว่ามีสถานที่เสี่ยงใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ชุมนุมหรือโรงงาน ศึกษาวงจรชีวิตของแรงงานพม่า เช่น การเดินทางของแรงงานไปตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในพื้นที่10จังหวัดชายแดนภาคตะวันตก ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตาก ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ระนอง และราชบุรี
โดยให้ปรึกษาหารือกับสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อเตรียมการณ์ในด้านการสำรวจและการตั้งจุดสกัด หากทางรัฐบาลมีการยกระดับสถานการณ์ หรือผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่าควรตั้งจุดตรวจ จะได้สามารถพิจารณาดำเนินการได้ทันที ,การจราจรบางเส้นทางที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาจมีความจำเป็นจะต้องตั้งจุดตรวจเพื่อควบคุมโรค ,ให้ระดับผู้บังคับการและรองผู้บังคับการ ต้องออกไปตรวจเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง และหากมีเหตุจำเป็นเร่งด่วนให้รายงานทางโทรศัพท์ทันที และให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติงดการจัดงานปีใหม่ หรืองานรื่นเริงที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค
อย่างไรก็ตามตำรวจพร้อมเป็นเครื่องมือสนับสนุนการทำงานของจังหวัด และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง ในการควบคุมป้องกันโรคแก้ไขสถานการณ์โควิดในครั้งนี้