เปิด 4 พื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรสาคร มีประวัติเดินทางต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19
สธ. เผย 4 พื้นที่เสี่ยง จ.สมุทรสาคร มีประวัติเดินทางต้องตรวจหาเชื้อโควิด 19
เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (23 ธันวาคม 2563) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และแพทย์หญิงวลัยรัตน์ ไชยฟู นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด 19 จังหวัดสมุทรสาคร โดยนายแพทย์โสภณกล่าวว่า ผลคัดกรองเชิงรุกในจ.สมุทรสาคร จำนวน 9,451 ราย ออกแล้ว 6,314 ราย พบติดเชื้อ 1,202 ราย อัตราการติดเชื้อคิดเป็นร้อยละ 19 ถือว่าลดลงจากก่อนหน้านี้ที่อยู่ประมาณร้อยละ 22.89 ผลไม่พบเชื้อ 5,112 ราย นอกจากนี้ ยังมีผู้ป่วยเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาลใน จ.สมุทรสาครอีก 76 ราย เป็นคนไทย 72 ราย และเมียนมา 4 ราย ส่งผลให้การติดเชื้อโควิด 19 ใน จ.สมุทรสาคร รวมเป็น 1,278 ราย
สำหรับจังหวัดอื่นๆ ที่พบผู้ป่วยโควิด 19 และมีความเชื่อมโยงกับตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร มีจำนวน 22 จังหวัด รวม 65 ราย ได้แก่ กทม. 16 ราย นครปฐม 10 ราย ฉะเชิงเทรา 6 ราย สมุทรปราการและสระบุรี จังหวัดละ 5 ราย ปทุมธานี 3 ราย กำแพงเพชร นนทบุรี ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา จังหวัดละ 2 ราย กระบี่ ขอนแก่น นครราชสีมา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ภูเก็ต สุพรรณบุรี อุตรดิตถ์ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ประจวบคีรีขันธ์ และชัยนาท จังหวัดละ 1 ราย โดยตัวเลขของแต่ละจังหวัดอาจเพิ่มขึ้น หากมีการสอบสวนค้นหาผู้ติดเชื้อเพิ่มเติม ผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังเชื่อมโยงกับตลาดกุ้ง มีเพียง 1-2 รายที่ติดเชื้อจากการมีคนในครอบครัวไปตลาดกุ้งแล้วติดเชื้อ
ทั้งนี้ การติดเชื้อของ จ.สมุทรสาคร จุดศูนย์กลางยังอยู่ที่ตลาดกลางกุ้ง โดยตรวจคัดกรอง 2,052 ราย พบติดเชื้อ 901 ราย คิดเป็นร้อยละ 44 ชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13 ตรวจคัดกรอง 2,074 ราย พบติดเชื้อ 134 ราย คิดเป็นร้อยละ 6.5 ตลาดทะเลไทย ตรวจคัดกรอง 963 ราย พบติดเชื้อ 137 ราย คิดเป็นร้อยละ 14 สะพานปลา ตรวจคัดกรอง 491 ราย พบติดเชื้อ 2 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.4 และชุมชนท่าจีน ตรวจคัดกรอง 449 ราย พบติดเชื้อ 18 ราย คิดเป็นร้อยละ 4 ซึ่งผลดังกล่าวทำให้ทราบขอบเขตและขนาดของปัญหา คือ มีการติดเชื้อที่จุดแรกสูง แต่เมื่อห่างออกมาการติดเชื้อก็ลดลง อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายชุมชนที่รอผลการตรวจ
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลสุขภาพแรงงานต่างด้าวที่กักกันในอยู่หอพักบริเวณตลาดกลางกุ้ง มีการตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อดูแลรักษากรณีมีอาการเจ็บป่วยน้อย หากมีอาการมากจะส่งต่อรักษาในโรงพยาบาล โดยวันที่ 22 ธันวาคม 2563 มีแรงงานต่างด้าวมารับบริการ 75 ราย พบว่ามีอาการเล็กน้อย คือ ปวดเมื่อย ไข้ ปวดศีรษะ แต่ส่วนใหญ่ตรวจแล้วไม่ใช่โควิด 19 ส่วนวันที่ 23 ธันวาคม 2563 มารับบริการเพิ่ม 44 ราย พบ 1 ราย มีไข้ อาการทางเดินหายใจ และเหนื่อย จึงตรวจรักษาเบื้องต้นและส่งต่อโรงพยาบาลสมุทรสาคร ขณะนี้ถือว่าควบคุมสถานการณ์ได้ จังหวัดอื่นมีการยกระดับการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนยังคงสวมหน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัดจะช่วยป้องกันตนเองได้
แพทย์หญิงวลัยรัตน์ กล่าวว่า จากการสอบสวนประวัติการเดินทางของผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในช่วง 14 วันก่อนเริ่มป่วย พบว่า ผู้ป่วยใน จ.สมุทรสาคร ร้อยละ 44 ไปตลาดกลางกุ้ง, ร้อยละ 14 ไปตลาดทะเลไทย, ร้อยละ 6 ไปตลาดมหาชัย, ร้อยละ 7 ไปชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13, ร้อยละ 1 ไปแพกุ้งมหาชัย และร้อยละ 1 ไปสะพานปลาไทย ส่วนผู้ป่วยนอก จ.สมุทรสาคร พบว่า ร้อยละ 60 ไปตลาดกลางกุ้ง, ร้อยละ 45 ไปตลาดทะเลไทย, ร้อยละ 10 ไปตลาดมหาชัย และร้อยละ 5 ไปแพกุ้งมหาชัย จากข้อมูลนี้ทำให้ระบุได้ว่า มี 4 พื้นที่เสี่ยงต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อทุกคน ได้แก่ ตลาดกลางกุ้ง ตลาดทะเลไทย ตลาดมหาชัย และชุมชนซอยเศรษฐกิจ 13 ส่วนคนที่เดินทางไปยังสถานที่อื่นของ จ.สมุทรสาคร ขอให้สังเกตอาการตนเอง หากมีไข้ ปวดเมื่อย ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ให้มารับการตรวจโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำหรับผู้ติดเชื้อกรณี จ.สมุทรสาคร มี 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ 1.เดินทางมารักษาเองที่โรงพยาบาลและสอบสวนติดตามผู้สัมผัส 2. การค้นหาในชุมชน ส่วนหลักอยู่ในหอพักศรีเมืองบริเวณตลาดกลางกุ้ง แต่มีอีกกลุ่มหนึ่งที่พักอาศัยภายนอก จึงได้รวบรวมรายชื่อเพื่อติดตามให้มารับการตรวจหาเชื้อในจังหวัดที่อาศัย และ 3. คนที่อยู่ในหอพัก จังหวัดได้ส่งอาหารและน้ำดูแล แม้ความแออัดอาจทำให้มีการติดเชื้อเพิ่ม แต่มีทีมรักษาพยาบาลในพื้นที่ และได้ประชาสัมพันธ์ให้ทุกคนอยู่ในห้องและสวมหน้ากาก แม้จะคนติดเชื้อและไม่ติดเชื้อจะอยู่ร่วมห้อง แต่การไม่ไปสัมผัสกัน แยกกันรับประทานอาหาร และสวมหน้ากาก ก็ช่วยป้องกันไม่ให้ติดเชื้อได้ ทั้งนี้ ยืนยันว่า จ.สมุทรสาครไม่ได้ห้ามคนไทยเดินทางเข้าออก เพียงแต่มีการตั้งด่านเพื่อตรวจวัดไข้ และให้ข้อมูลข่าวสาร ต้องปฏิบัติตัวเหมือนคนในชุมชน คือ เว้นระยะห่างจากคนอื่น สวมหน้ากาก และหลีกเลี่ยงสถานที่คนหนาแน่น