กต. รุดแก้ไขปัญหาส่งออกสุกรไป 'กัมพูชา'
กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีปัญหาการส่งออกสุกรมีชีวิตไป "กัมพูชา" พร้อมสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน และเพิ่มความเคร่งครัดในมาตรการด้านสาธารณสุข
นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจต่อกรณีปัญหาการส่งออกสุกรมีชีวิตไปกัมพูชา และพร้อมสนับสนุนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเจรจากับฝ่ายกัมพูชาเพื่อแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน โดยมีรายละเอียด ดังนี้
1.กระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจและได้ติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับปัญหาการส่งออกสุกรไปประเทศกัมพูชา มาโดยตลอด พร้อมทั้งให้การสนับสนุนกรมปศุสัตว์ในการเจรจากับฝ่ายกัมพูชา
2. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกได้หยิบยกเรื่องดังกล่าวกับเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย โดยเฉพาะหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตให้เฉพาะบริษัทไทย 5 ราย สามารถส่งออก/นำผ่านสุกรไปกัมพูชา เพื่อประโยชน์ในการชี้แจงผู้ส่งออกสุกรรายอื่น ซึ่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยรับที่จะติดตามเรื่องดังกล่าวกับเมืองหลวงอย่างใกล้ชิดต่อไป
3. ล่าสุด กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงกัมพูชา ได้มีหนังสือลงวันที่ 18 ธันวาคม 2563 ถึงกรมปศุสัตว์แจ้งอนุญาตบริษัทไทยเพิ่มอีก 5 ราย ให้สามารถส่งออกหรือนำผ่านสุกรไปกัมพูชา ผ่านจุดผ่านแดนที่ได้รับอนุญาตทุกจุดได้ ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ กัมพูชา จะสังเกตการณ์การส่งออกและนำเข้าสุกรของบริษัทไทยที่ได้รับอนุญาตดังกล่าว หากสามารถปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงเกษตรฯ กัมพูชาได้ด้วยดี ก็จะพิจารณาอนุญาตบริษัทไทยรายอื่น ๆ เพิ่มต่อไป
4. ในขั้นต่อไป สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงพนมเปญ กำลังพิจารณาโอกาสขอเข้าพบผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรฯ กัมพูชา เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในชุมชน (local infection) เป็นครั้งแรกในกัมพูชา ทำให้หน่วยงานกัมพูชาเพิ่มความเคร่งครัดในมาตรการด้านสาธารณสุข ซึ่งรวมถึงการจำกัดการพบปะกับบุคคลภายนอก และกระทรวงการต่างประเทศพร้อมจะประสานงานให้กรมปศุสัตว์พร้อมทั้งผู้ประกอบการได้พบหารือกับสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยโดยตรง เพื่อเป็นการผลักดันเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง