ปี 2564 รับมือความท้าทาย 'โลกที่ไม่เหมือนเดิม'
การเปลี่ยนแปลงในปี 2563 ทำให้สังคมเข้าสู่ความปกติใหม่ ลากยาวถึงปี 2564 วิกฤติโควิด-19 ยังอยู่ รอเพียงความหวังใหม่อย่างวัคซีนโควิด ขณะเดียวที่ปรากฏการณ์ดิจิทัล ดิสรัปชั่น ยังรอแผลงฤทธิ์อยู่ หากไม่กล้าเปลี่ยนแปลง จะอยู่ยากขึ้นและตกขอบโลกยุคใหม่
สวัสดีปีใหม่ปี 2564 ก้าวสู่ปีวัวแบบช้ำๆ ท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม เต็มไปด้วยความท้าทายรออยู่เบื้องหน้า ยังต้องเผชิญกับความผันผวนในทุกภาคส่วนแบบสุดจะคาดเดา จากวิกฤติโควิด-19 ที่ทุบเศรษฐกิจและชีวิตคนทั่วโลกอย่างรุนแรง ลากยาวต่อเนื่องมาถึงปีนี้ รอเพียง “ความหวังใหม่” อย่าง “วัคซีน” ที่เชื่อว่าจะช่วยหยุดโรคนี้ลงได้ และคาดว่าจะเริ่มนำมาใช้ภายในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขไทย บอกว่ามีความพยายามจัดหาวัคซีนโควิด-19 จากทุกแหล่ง ล่าสุดเจรจาซื้อวัคซีน 2 ล้านโดสจากผู้ผลิตในราคา 17 ดอลลาร์ต่อโดส ทั้งเจรจากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า หนึ่งในผู้ผลิตวัคซีน ซื้อเพิ่มอีก 26 ล้านโดส รวมเป็น 52 ล้านโดส เดือน ก.พ.-เม.ย.2564 ไทยอาจจะได้รับวัคซีนโควิด-19 ล็อตพิเศษ 2 ล้านโดสก่อนในเบื้องต้น
ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่าเมื่อมีวัคซีนโควิด-19 แล้ว จะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตลง กลุ่มแรกที่จะพิจารณาให้วัคซีนคือผู้ที่ติดเชื้อแล้วเสี่ยงมีอาการรุนแรงและเสียชีวิต จากนั้นจึงจะให้กับกลุ่มอื่น ซึ่งจะทำให้คนมีภูมิต้านทานต่อโรคมากขึ้น จากนั้นโรคจะเริ่มสงบ และหยุดระบาด
เราเห็นด้วยว่ารัฐบาลควรต้องจริงจังเรื่องการจัดหาวัคซีน และต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน รอไม่ได้อีกแล้ว เพราะเราบอบช้ำจากโควิด-19 มานานนับปี ประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียงก็เริ่มต้นใช้วัคซีนกันล่วงหน้าตั้งแต่ปลายปี 2563 ขณะที่อีกหลายประเทศเร่งใช้วิธีกำราบโควิด-19 แต่ประเทศไทยยังคง “ติดกับ” อยู่กับตัวเลขผู้ติดเชื้อ ที่ยังเพิ่มขึ้นอยู่ทุกวันแม้จะมีมาตรการเข้มงวด คัดกรอง ล็อกดาวน์ หยุดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง
รัฐบาลจึงช้าไม่ได้ ต้องจัดหาวัคซีนให้ถึงมือคนไทยโดยเร็ว และไม่ควรทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องของการเมือง หรือผลประโยชน์ เพราะนี่คือชีวิตคน คือเศรษฐกิจประเทศที่ควรต้องเดินหน้าและมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแกร่ง ต่อสู้ความท้าทายที่กำลังดาหน้าเข้ามา ซึ่งไม่ได้มีแค่โควิด-19 เพราะแม้จะหยุดโรคนี้ได้ แต่โลกก็คงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว การเปลี่ยนแปลงในปี 2563 ทำให้สังคมเข้าสู่ความปกติในรูปแบบใหม่ หรือนิว นอร์มอล คนคุ้นชินกับการใช้ชีวิตที่ก่อนหน้านี้เคยปฏิเสธ ธุรกิจปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ดำเนินกลยุทธ์ที่แปลกใหม่ มีทัศนคติและวิธีคิดที่ยืดหยุ่น
ปี 2563 ที่คิดว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดครั้งหนึ่งในช่วงชีวิตของคนจำนวนมาก แต่ปี 2564 อาจเป็นปีที่เปลี่ยนแปลงและเกิดปรากฏการณ์ที่เราไม่อาจคาดเดาถึงที่มาและตอนจบได้มากกว่าปีที่แล้วก็ได้ ปรากฏการณ์ “ดิจิทัล ดิสรัปชั่น” ยังไม่ได้แผลงฤทธิ์อย่างเต็มที่ ปีนี้ใครไม่ “กล้าเปลี่ยนแปลง" หรือ “คิดนอกกรอบ” จะอยู่ยากขึ้น และสุดท้ายจะเดินตกขอบโลกยุคใหม่ ที่ไม่ใช่โลกเดิม...อย่างน่าเสียดาย