สุรินทร์ติดโควิดรายที่ 3 มาจากสมุทรสาคร รอผลตรวจอีก 26 ราย

วันนี้ (5 ม.ค. 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. ของวานนี้ ที่ห้องศูนย์บัญชาการเหตุการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จังหวัดสุรินทร์ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ ได้รายงานว่า พบมีผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เพิ่มอีก 1 ราย เป็นชาวอำเภอกาบเชิง ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 และตรวจพบเชื้อในวันที่ 2 มกราคม 2564

ขณะนี้ ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลกาบเชิง พร้อมทั้งมีการสอบสวนโรคเพื่อค้นหากลุ่มเสี่ยงผู้ที่สัมผัสอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้แล้ว สำหรับข้อมูลระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ถึง 4 มกราคม 2564 พบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (PUI) รายใหม่ 16 ราย สะสม 332 ราย ไม่พบชื้อ 304 ราย รอผลการตรวจ 26 ราย โดยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมเป็น 3 ราย

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีการแพร่ระบาดรุนแรงหลายพื้นที่ในประเทศไทย จึงได้กำหนดมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคให้มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น ตามแนวทางการจัดเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด จังหวัดสุรินทร์ อยู่ในเขตพื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด 38 จังหวัด หรือสีเหลือง จึงให้ประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (พื้นที่สีแดง) จำนวน 28 จังหวัด ตามคำสั่งของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ดังนี้ กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชุมพร ชลบุรี ตราด ตาก นครนายก นครปฐมนนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี ราชบุรี ระนอง ระยอง ลพบุรี สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สุพรรณบุรี สระแก้ว สระบุรี และอ่างทอง

โดยทุกคนที่เดินทางเข้ามาในจังหวัดสุรินทร์ ต้องรายงานตัวกับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน ทันทีนับตั้งแต่เดินทางมาถึงที่พัก แล้วให้ผู้เดินทางทุกคนต้องกักกันตัว 14 วัน ซึ่งการกักกันตัว 14 วัน ให้กักกันตัวในที่พักอาศัย หรือสถานที่ที่ทางอำเภอ หรือคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุรินทร์ประกาศกำหนด โดยห้ามออกนอกพื้นที่กักกันตัว และหากมีอาการป่วยต้องแจ้ง กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) หรือผู้ใหญ่บ้าน/กำนัน ทันที หากผู้ใดฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตามกฎหมาย มาตรา 51 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ จังหวัดสุรินทร์ ได้เตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับหากพบมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น ทั้งโรงพยาบาลสนาม เครื่องมือ อุปกรณ์ในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 นอกจากนี้ จะได้มีการตั้งด่านตรวจคัดกรองผู้ที่เดินทางโดยรถยนต์เข้าเขตจังหวัดสุรินทร์ จำนวน 12 จุด รวมถึงสถานีรถไฟ และสถานีขนส่งผู้โดยสาร และล้างทำความสะอาดสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ทุก 14 วัน เพื่อให้ปลอดจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ด้วย