เซ็ปเป้ เปิดศึกชิงกาแฟนอกบ้าน ปั้นคาเฟ่ เจาะทำเลสยามสแควร์
ตลาดกาแฟนอกบ้าน เทรนด์โตมาแรง รับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค เซ็ปเป้ สบโอกาสขยายช่องทางจำหน่าย เปิดคาเฟ่ แฮฟ อะ ซิพ เดย์ คาเฟ่ บาย เพรียว บุกสยามสแควร์ หวังแจ้งเกิดเจาะคนรุ่นใหม่
นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทรนด์ผู้บริโภครักสุขภาพยังคงมาแรงอย่าวต่อเนื่อง โดยเซ็ปเป้มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายหลายรายการ หนึ่งในนั้นคือกาแฟปรุงสำเร็จแบรนด์ “เพรียว” คอฟฟี่ ซึ่งทำตลาดในเซ็กเมนต์กาแฟควบคุมน้ำหนัก และเป็นหนึ่งในแบรนด์หลักที่ขับเคลื่อนตลาด
ล่าสุด บริษัทได้เดินหน้าขยายช่องทางจำหน่ายสินค้า สร้างโมเดลในรูปแบบร้านกาแฟหรือคาเฟ่ภายใต้ชื่อ แฮฟ อะ ซิพ เดย์ คาเฟ่ บาย เพรียว(HAVE A sip DAY CAFE by เพรียว) นำร่องทำเลใจตกลางเมืองอย่างสยามสแควร์ เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใ่ส่ใจสุขภาพ โดยภายในร้านมีเมนูเครื่องดื่มพิเศษหลายรายการทั้งชงร้อนและเย็น เช่น เมนู Rudolf the Reindeer เมนู Christmas Carol เป็นต้น ซึ่งเครื่องดื่มดังกล่าวล้วนมีวัตถุดิบหลักจากกาแฟเพรียว
“จุดเริ่มต้นแนวคิดในการเปิดตัว เพรียว คาเฟ่ เกิดจากไอเดียการประกวดความคิดสร้างสรรค์ของพนักงานในทีมอินโนสตูดิโอ(InnoStudio)ของเซ็ปเป้ ที่มองเห็นเทรนด์ของผู้บริโภคให้ความใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น การลด ละ เลิกอาหารหรือผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำตาล ไขมัน หรือแคลอรี่สูง โดยเฉพาะสาวๆ ที่มักคำนวณแคลอรี่ก่อนรับประทานอาหาร ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าสนใจ ขณะที่เซ็ปเป้มีผลิตภัณฑ์เพรียว แบรนด์มีจุดยืนที่ชัดเจนเรื่องสุขภาพ จึงต่อยอดไปสู่การเปิดร้าน HAVE A sip DAY CAFE by เพรียว”
ทั้งนี้ หากการเปิดคาเฟ่ได้ผลตอบรับดีจากตลาด มีโอกาสที่บริษัทจะพัฒนาต่อยอดเป็นโมเดลธุรกิจใหม่สำหรับเซ็ปเป้ในระยะยาว และเดินหน้าเปิดสาขาเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของตลาดในอนาคต
ปัจจุบันเพรียว คอฟฟี่ เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดกาแฟควบคุมน้ำหนัก มีการทำตลาดผ่านช่องทางจำหน่ายร้านรค้าทั่วไป และห้างค้าปลีกสมัยใหม่ โดยแนวโน้มตลาดกาแฟควบคุมน้ำหนักยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องผ่านช่องทางใหม่ๆทั้ง จออนไลน์ และธุรกิจคาเฟ่ ซึ่งเริ่มเข้ามามีบทบาทในตลาดมากขึ้น เพื่อตอบไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค
สำหรับเพรียว คอฟฟี่ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ประมาณ 20%(ข้อมูลจากนีลเส็น ต.ค.ุ_) ถือว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์หลักที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนตลาดกาแฟควบคุมน้ำหนัก และมีส่วนกำหนดทิศทางแนวโน้มของตลาดกาแฟควบคุมน้ำหนัก อย่างไรก็ตาม ช่วงวิกฤตโควิด-19 ระบาดส่งผลต่อการบริโภคของประชาชน ทำให้ยอดขายไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสมากมายทั้งช่องทางการขายแบบดั้งเดิม รวมถึงไอเดียแนวทางการขายใหม่ๆ ที่จะผลักดันให้แบรนด์สามารถเติบโตอย่างแข็งแรงในปี 2564