สูตรโต “อิชิตัน” ปี 64 ลุยธุรกิจใหม่ โกยยอดขาย-กำไร
เปิดศักราชด้วยโรคระบาดโควิดระลอก 2 ธุรกิจต้องวางหมากรบให้แม่น เพื่อพิชิตเป้าหมายปี 64 ส่องบิ๊กเครื่องดื่ม "อิชิตัน" เฟ้นหาธุรกิจใหม่เติมพอร์ต ทั้งไม่ใช่เครื่องดื่ม ไม่ใช่ชาพร้อมดื่ม จิ๊กซอว์โตต่อ
ในปี 2563 ที่ผ่านมา ตลาดเครื่องดื่มโดยรวมอาจจะอยู่ในสถานการณ์ไม่สวยหรูนัก เพราะพิษสงโควิด-19 เล่นงานกันถ้วนหน้า จนตลาดบางหมวดหมู่ต้องอยูในภาวะ “ติดลบ” แต่หากจะดูผู้ประกอบการที่จับสินค้าถูกทาง อาศัยจังหวะผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ หันมาบุกตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ทั้งวิตามินซี น้ำดื่มผสมวิตามิน ย่อมคว้าโอกาสเติบโตได้ ตลาดที่อาจจะหดตัว ก็ประคองตัวให้เติบโต รวมถึงสินค้าที่จับกลุ่มมเป้าหมายผู้บริโภคในประเทศก็ได้รับโอกาสที่ดีเช่นกัน
ขณะที่โควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดระลอก 2 และส่อเค้าหนักกว่ารอบแรก จากจำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นต่อเนื่อง แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มปี 2564 จะเป็นอย่างไร บิ๊กแบรนด์เตรียมกลยุทธ์อะไรบ้างเพื่อฝ่าวิกฤติไวรัสปีที่ 2 ติดต่อกัน ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) ให้มุมมองเชิงบวก ถึงผลกระทบที่เผชิญนั้นไม่ใช่แค่อิชิตันที่ต้องรับมือ แต่เกิดกับทุกคน เมื่อผ่านรอบแรกไปแล้ว ทุกภาคส่วนถือมีวิธีการจัดการที่ดี แยกกลุ่มผู้ติดเชื้อ แยกพื้นที่สกัดการแพร่รระบาดของโรคเป็นจังหวัด อำเภอ และไม่ต้องปิดหรือล็อกดาวน์ทั้งเมืองให้ตกใจเหมือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การออกสตาร์ทปี 2564 พร้อมกับโควิด-19 ระบาด และคงอยู่อีกสักระยะ ผู้ประกอบการมีการปรับตัวกระบวนท่าเอาตัวรอดในรอบแรกแล้ว สามารถนำมาปรับใช้และพัฒนากระบวนท่าใหม่ พลิกแพลงให้มากขึ้นเพื่อต่อกรกับระลอก 2 เสริมแกร่ง ที่ผ่านมา อิชิตัน เน้นปรับตัวเร็ว หาแนวทางใหม่ตลอด
ส่วนแนวทางการดำเนินธุรกิจปีนี้ ยังคงให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชาเขียวพร้อมดื่มหรือ Non-Tea โดยเฉพาะน้ำด่างผสมวิตามิน และเครื่องดื่มวิตามินซีซึ่งถือเป็นพระเอกใหม่ที่ทำยอดขายและกำไร หรือCash cows แม้ว่าตลาดจะเริ่มแข่งขันรุนแรง มีผู้เล่นเข้ามามากขึ้น รวมถึงระเบิดสงครามราคา แต่สินค้ายังคงมีความสามารถในการทำกำไรอยู่
“เป็นธรรมชาติของธุรกิจ ที่ช่วงแรกต้องมีการจูงใจผู้บริโภคให้เกิดการทดลองสินค้า สร้างฐานแฟน อิชิตันเราได้เปรียบด้านต้นทุนและการแข่งขัน”
ขณะที่ชาเขียวพร้อมดื่มยังขยายตัวได้ โดยสินค้าราคา 10 บาท เป็นพระเอกสร้าางการเติบโตให้ตลาดภายในประเทศแบบก้าวกระโดด แม้ว่าโควิดระบาดจะกระทบการบริโภคนอกบ้าน ซึ่ง 70% ของการบริโภคชาเขียวพร้อมดื่มจะอยู่นอกบ้านพื่อความสดชื่น เพิ่มพลังงาน ส่วนการบริโภคในบ้านจะเป็นรสชาติหวานน้อย ปราศจากน้ำตาล ดื่มเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจการขยายธุรกิจที่ไม่ใช่เครื่องดื่มหรือ Non-Drink และจะไม่ใช่การลงทุนสร้างกิจการเอง แต่มองหาการร่วมทุนกับพันธมิตร มีหลักเกณฑ์พิจารณาคือจะไม่เข้าไปถือหุ้นใหญ่ ธุรกิจจะต้องมียอดขายเป็นทุนเดิมรวมถึง “กำไร” และบริษัทจะใช้ศักยภาพที่มีเพื่อเสริมแกร่งด้านยอดขายให้มากขึ้น นำไปสู่การเพิ่มกำไรแล้วแบ่งกันตามสัดส่วน
“มีคนเสนอขายกิจการจำนวนมาก เราสนใจร่วมทุนบริษัทที่ช่วยเติมเต็มกัน โดยธุรกิจใหม่จะไม่ใช่เครื่องดื่ม ไม่ใช่ธุรกิจบริการ อสังหาริมทรัพย์และร้านอาหาร เว้นแต่ร้านอาหารที่ใช้คนน้อยรวมถึงสนใจธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ การลงทุนใน 10 บริษัทเพื่อสร้างยอดขาย ค่อยๆเติบโตไม่เอา ขอลงทุน 2 บริษัทแล้วโตเลย”
สำหรับอิชิตัน มีจุดแข็งที่ช่วยเสริมศักยภาพให้พันธมิตร ได้แก่ ด้านการเงิน การตลาด ช่องทางจำหน่ายและกระจายสินค้า รวมถึงสายสัมพันธ์ที่ดีหรือ Connection กลยุทธ์การขยายธุรกิจใหม่ต้องการให้มีสัดส่วนรายได้ 50% ใน 5 ปี
ด้าน ธนพันธุ์ คงนันทะ กรรมการบริหารและรองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปี 2563 เกิดปรากฏการณ์ผู้ประกอบการเครื่องดื่มนอลแอลกอฮอล์สร้างผลการดำเนินงานที่ดี โดยหลายบริษัททำ “กำไร” ฝ่าโควิด-19 ได้ โดยเครื่องดื่มหมวดเพื่อสุขภาพ เสริมภูมิต้านทานให้ผู้บริโภคเป็นหมวดที่มาแรงมาก
“ปี 63 เป็นปีแห่งเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพจริงๆ และน้ำดื่มผสมวิตามิน เครื่องดื่มวิตามินแบบช็อตเป็นพระเอก และโมเมนตัมการเติบโตยังมีต่อเนื่อง”
ไตรมาส 3ต่อเนื่องถึงไตรมาส 4 ตลาดเครื่องดื่มฟื้นตัว แต่โควิดระบาดระลอกใหม่เป็น “ตัวแปร” กระทบการบริโภคอีกครั้ง แต่ยังประเมินสถานการณ์ปี 2564 ค่ายเครื่องดื่มทุกรายทุกหมวด ทั้งนมพร้อมดื่ม น้ำอัดลม น้ำดื่มฯ จะกลับมาขับเคี่ยวกันต่อ ผลักดันให้ตลาดเติบโตได้ ส่วนโจทย์ใหญ่ยังต้องทำกิจกรรมภายใต้การระมัดระวังการใช้จ่ายงบการตลาด มีการผนึกพันธมิตรหรือ Collaborationมากขึ้น เพื่อใช้ทรัพยากรที่มีให้คุ้มค่าเกิดประโยชน์แก่ลูกค้าสูงสุด สร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจ เช่นที่ผ่านมา อิชิตันผนึกทรู 5G ใช้งบราว 20 ล้านบาท แต่หวังกระตุ้นยอดขายโต 10 เท่า หรือราว 200 ล้านบาท ในระยะเวลา 2 เดือนเศษ
“การจับมือพันธมิตรทำแคมเปญการตลาด 1+1 ต้องได้มากกว่า 2”