'ไทยบีเอ็มเอ'ไม่หวั่นโควิด มั่นใจหุ้นกู้ปีนี้‘ไร้ผิดนัด’
สมาคมตราสารหนี้ฯ คาดปีนี้ ไม่เกิด บริษัทผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ แม้โควิดระบาดระลอกใหม่ เหตุ กลุ่มเสี่ยง “ไฮยิลด์บอนด์” 12 บริษัท ได้ยืดหนี้ ออกไปแล้ว ส่วนเม็ดเงินต่างชาติ ประเมิน ยังไม่เข้าลงทุนในตลาดบอนด์ไทย เหตุ ส่วนต่างบอนด์ยีลด์10 ปีสหรัฐขยับใกล้ไทย ส่วนยอดหุ้นกู้เอกชนปีนี้คาดอยู่ที่ 7-7.5 แสนล้านบาท
นายธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้ไทยเท่ากับการระบาดรอบแรก เพราะพื้นที่การล็อกดาวน์จำกัดพื้นที่ ยกเว้นบางอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบและยังเปราะบางอยู่ เช่น ท่องเที่ยว
สำหรับความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหุ้นกู้ปีนี้ ไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะที่ผ่านมาบริษัทที่เกิดปัญหาผิดนัดชำระหนี้จะอยู่ในกลุ่มไฮยิลด์บอนด์ ซึ่งปัจจุบันมี 12 บริษัท คิดเป็นมูลค่าคงค้างเพียง 0.3% ของมูลค่าคงค้าหุ้นกู้เอกชนเท่านั้น และบริษัทดังกล่าวที่ผ่านมาใช้วิธีการยืดชำระหนี้หุ้นกู้ไปค่อนข้างมากแล้ว และในปีนี้สามารถกลับไปใช้สินชื่อจากสถาบันการเงินแล้วชำระคืนหนี้ได้หรือขอยืดระยะเวลาชำระหนี้หุ้นกู้ต่อไปอีก หากสภาพคล่องยังไม่ดีพอ ซึ่งอาจมีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ไม่ฟื้นจริงๆ ก็ยังต้องติดตามดู
ในส่วนกระแสเงินลงทุนต่างชาติ ปัจจุบันมีมูลค่าตราสารหนี้ไทยคงค้างราว 8.57 แสนล้านบาท ประเมินว่า ในปีนี้การไหลออกคงมีไม่มาก เพราะส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ต้องลงทุนและนักลงทุนต้องลงทุนตามสัดส่วน และการไหลเข้าของกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลด์) คงไม่น่าเข้ามาแล้ว ด้วยต้นทุนที่แคบลงมากระหว่างบอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปีปัจจุบันขยับขึ้นเร็วอยู่ที่ 1.12% ใกล้กับบอนด์ยีลด์ของไทย 10 ปี อยู่ที่1.34% ทำให้แรงเก็งกำไรส่วนต่างดอกเบี้ยและค่าเงินบาทแทบจะไม่มีแล้ว
ทั้งนี้จะเห็นว่าในช่วงปีนี้เงินทุนต่างชาติไหลเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสภาพคล่องต่ำและราคาปรับขึ้นเร็ว อย่าง บิทคอยน์และหุ้นเทคโนโลยีบางตัวแทน โดยตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน(13ม.ค.2564) เป็นยอดขายสุทธิรวม 8.26 พันล้านบาท จาก ณ สิ้นปี 2563 เป็นยอดขายสุทธิ 6.4 หมื่นล้านบาท แม้จะกลับมาเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ระยะยาวในช่วงครึ่งปีหลัง
ทางด้านแนวโน้มตลาดตราสารหนี้ไทยปี 2564 นายธาดา คาดว่า จะมีมูลค่าการออกหุ้นกู้ทั้งสิ้น 7-7.5 แสนล้านบาท เป็นหุ้นกู้ครบกำหนดในปีนี้ราว7.3 แสนล้านบาท และคงมีส่วนหนึ่งกลับไปใช้เงินสินเชื่อสถาบันการเงินที่เสนออัตราดอกเบี้ยจูงใจ แต่ยังมองว่า บริษัทเอกชนยังคงมีความต้องการระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ระยะยาว เพื่อเสริมสภาพคล่องรองรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน
จากปี2563 มีมูลค่าการออกหุ้นกู้อยู่ที่ 6.8 แสนล้านบาท และมีมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทยอยู่ที่14.13ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น4.5%จากปีก่อนหน้า ซึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของพันธบัตรรัฐบาล ในขณะที่ตราสารหนี้ประเภทอื่นมีมูลค่าคงค้างลดลง