‘หุ้นไทย’วันนี้ ช่วงเช้าลดลง14.73จุด
หุ้นไทยช่วงเช้า 1,504.40 จุด ลดลง 14.73 จุด โบรกทองหุ้นไทยมีแนวโน้มพักตัวลงต่อ จากแรงหนุนก่อนหน้าของดัชนีหมดกำลังส่ง และแรงขายปรับพอร์ต
ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (25 ธ.ค.) ต้นภาคเช้าเวลา11.00น. ดัชนี SETอยู่ที่ 1,504.40จุด ลดลง 14.73 จุด (-0.97%) มูลค่าการซื้อขาย 22,520.39 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนี SET มีแนวโน้มพักตัวลงต่อ โดยตลาดซึมซับปัจจัยบวกมามากแล้ว และแรงหนุนก่อนหน้าของดัชนีอย่างหุ้น free float ต่ำ และกลุ่มพลังงาน การปรับขึ้นเริ่มถูกจำกัด รวมถึงแรงขายปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน เป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนี ด้านแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,510 และ1,495 จุด ตามลำดับ ส่วนการฟื้นตัวคาดถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,532-1,545 จุด กลยุทธ์ การเข้าตลาดช่วงนี้ ให้ซื้อเก็งกำไรอย่างระมัดระวังแบบ Selective Buy โดยกำหนดจุด Stop loss เพื่อจำกัดความเสี่ยง
ประเมินว่าช่วงที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นมาโดยได้รับอิทธิพลจากหุ้น free float ต่ำ และกลุ่มพลังงานไปมากแล้ว มองว่าหลังจากนี้ดัชนีจะเริ่มอิ่มตัว อีกทั้ง valuation หุ้นโรงกลั่นและปิโตรเคมีเริ่มตึงตัว จึงแนะนำลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นกลุ่มนี้
การลงทุนเน้นที่ 2 theme หลัก 1) 4Q20 Earnings Play (CPF, BDMS, BLA, SPALI, SCGP, TOP) และ 2) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, BJC, MAKRO, TNP) ซึ่งคาดได้ประโยชน์จากมาตรการเยียวยารอบใหม่
โดย CPF (ราคาเป้าหมาย 38.00 บาท) คาดกำไรสุทธิ 4Q63 โต 72%YoY หนุนจากกำไรพิเศษและราคาสุกรที่ปรับเพิ่มขึ้นทั้งเวียดนาม จีน ไทย ส่วนปี 64 คาดกำไรเติบโตต่ออีก 5%YoY
นักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับในสัปดาห์นี้ (11-15 มกราคม) คาดว่าดัชนี SET จะย่อลงต่ออีกเล็กน้อย ถึงแม้เรายังคงมองบวกกับแนวโน้มตลาดหุ้นใน 1064 และยังคงเป้าดัชนีไตรมาสแรกเอาไว้ที่ 1,590 จุด แต่เรามองว่า ปัจจัยระยะสั้นที่เข้ามากระทบตลาดเป็นลบมากขึ้น ปัจจัยแรก คือรูปแบบของตลาดที่ไม่ตื่นเต้นง่าย ๆ อีกแล้วกับข่าวดีจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิสหรัฐ และการนำวัคซีนออกมาใช้ในประเทศต่าง เพราะก่อนหน้านี้ตลาดได้ discount ประเด็นเหล่านี้ไปเรียบร้อยแล้ว
ปัจจัยที่สองคือข่าวเกี่ยวกับวัคซีน Sinova และรายงานข่าวช่วงสุดสัปดาห์ว่ามีชาวนอรเวย์กว่า 20 รายเสียชีวิตหลังจากได้รับวัคซีนจากPfizer-BioNTech ซึ่งทำให้เกิดกระแสความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นเกี่ขวกับวัคซีนในภาพรวม
ปัจจัยที่สามคือนักลงทุนน่าจะรอดูสถานการณ์ก่อนจะถึงพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของ Biden ทั้งนี้การปรับฐานของดัชนีๆ ในรอบนี้นั้น ทางเรามองความเสี่ยงทาง (downside risk) ที่
1,465 จุด อิงการคำนวณ eanings yield gap ที่ 4.1% ซึ่งเป็นก่เฉลี่ยระยะขาว 10 ปีย้อนหลัง และ EPSตลาดหุ้น ไทยปี 2563 ที่เรามองไว้ที่ 79.3 จุด