เศรษฐกิจ
พาณิชย์ นำเกษตรกร-ผู้ค้าทำสัญญาซื้อขายกระเทียมล่วงหน้ากิโลละ 13.50 บาท เป็นราคาชี้นำตลาด แก้ปัญหาราคาตก พร้อมคุมเข้มลักลอบนำเข้า
“จุรินทร์” ถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมาตราการเชิงรุกช่วยเกษตรกรปลูกกระเทียม ดึงราคาสูงขึ้นสกัดการตกเขียวฉุดราคคกต่ำ พร้อมกำชับหน่วยงานความมั่นคงคุมเข้มลักลอบนำเข้ากระเทียม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมวางแผนเชิงรุกรองรับการแก้ไขปัญหาสินค้ากระเทียม ว่า ได้ร่วมประชุมกับนายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกระทรวงพาณิชย์เพื่อเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมเป็นการล่วงหน้ารองรับผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนก.พ.-มี.ค. ซึ่งมีความเป็นห่วงราคาจะไม่ดีเท่าที่ควรเพราะมีข่าวว่ามีการตกเขียวกระเทียมสดล่วงหน้าในราคากิโลกรัมละ 8 บาท ซึ่งคิดว่าเป็นราคาที่ต่ำเกษตรกรควรได้ราคาดีกว่านี้จึงประชุมแก้ปัญหาเชิงรุกล่วงหน้า
โดยมอบหมายกรมการค้าภายในประสานงานกับทีมเซลล์แมนจังหวัดที่พาณิชย์ ร่วมกับภาคเอกชนจัดให้มีการเจรจาซื้อขายกระเทียมสดล่วงหน้าในราคาที่คิดว่าเป็นธรรม 8 สัญญา มีภาคเอกชน 8 บริษัทเป็นผู้ซื้อและกลุ่มเกษตรกร 8 กลุ่มเป็นผู้ขายในราคากระเทียมสดกิโลกรัมละ 13.50 บาท ซึ่งเป็นราคาชี้นำตลาดในฤดูกาลผลิตนี้
“ ให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดร่วมกับภาคเอกชนและทุกฝ่ายทำสัญญาเพิ่มเติม เพื่อช่วยให้เกษตรกรชาวไร่กระเทียมขายกระเทียมได้ในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้นกว่าราคาตกเขียวที่กิโลกรัมละ 8 บาท “
นายจุรินทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้กำหนดมาตรการเสริมในช่วงที่กระเทียมออกมาก มีมาตรการชะลอขาย ถ้าเกษตรกรผู้รวบรวมกระเทียมหรือสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรชะลอขายกระทรวงพาณิชย์จะมีวงเงินช่วยเหลือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ผู้รวบรวมกระเทียม ประมาณ 6 เดือนเมื่อราคาดีค่อยขายช่วยดอกเบี้ย 3 %
ส่วนมาตรการระยะยาวที่กระทรวงเกษตรฯจะเป็นผู้ดำเนินการพัฒนาพันธุ์กระเทียมให้กระเทียมไทยเป็นกระเทียมที่มีคุณภาพ เรียกว่า “ใหญ่ ง่าย ดี“กลีบใหญ่ แกะง่าย และมีคุณภาพดี รสชาติดี และเร่งรัดการส่งเสริมการปลูกกระเทียมออร์แกนนิคและเปิดตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ ส่งเสริมการนำกระเทียมไปสร้างนวัตกรรมทางอาหารเพื่อเพิ่มมูลค่าโดยเร่งรัดให้ อย. ออกใบอนุญาตให้กับนวัตกรรมเหล่านี้ต่อไป
นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนการแก้ปัญหาการลักลอบการนำเข้ากระเทียมจากต่างประเทศ นั้นได้การสั่งการให้กรมศุลกากรตำรวจและฝ่ายความมั่นคงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเคร่งครัดการแก้ปัญหาลักลอบการนำเข้า โดยเข้มงวดการออกไปอนุญาตนำเข้ากระเทียมให้มีการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพของกระเทียมที่นำเข้า เข้มงวดการตรวจสอบการขนย้าย หากตรวจพบจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งจะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบอีกครั้งหนึ่งในวันที่26 ม.ค.เพื่อให้นายกฯได้สั่งการกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้ากระเทียมต่อไป
สำหรับผลผลิตกระเทียมในแต่ละปีจะมีประมาณ 80,000 ตัน แบ่งเป็นกระเทียมสด 230,000 ตัน บริโภคภายในประเทศเป็นกระเทียมแห้ง 170,000 ตัน จึงนำเข้ากระเทียมแห้งประมาณ 60,000 ตัน ซึ่งการนำเข้าเป็นไปตามข้อตกลงดับบลิวทีโอ(WTO )โดยกำหนดเงื่อนไขต่างๆ และมีภาษีนำเข้า 57 %