เลือกซ่อม 'เปิดศึกพรรคร่วม' 'ปชป.' เบรก 'พปชร.' ลงแข่ง

จากกรณีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์ให้สมาชิกภาพ ส.ส.ของ “เทพไท เสนพงศ์” ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช สิ้นสุดลง โดยตามกฎหมายคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต้องดำเนินการจัด “เลือกตั้งซ่อม” ภายใน 45 วัน โดยคาดว่า กกต.จะกำหนดให้วันที่11-15 ก.พ. เป็นวันรับสมัครเลือกตั้ง และวันอาทิตย์ที่ 7 มี.ค.เป็นวันเลือกตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างลง

หากย้อนไปดูสนามเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.2562 การเลือกตั้งใน จ.นครศรีธรรมราช ในพื้นที่ 8 เขตเลือกตั้ง เป็นไปอย่างดุเดือด ระหว่างพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐ จากเดิมพันผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 1,205,067 คน มีผู้มาใช้สิทธิอยู่ที่ 753,750 คน ซึ่ง “ประชาธิปัตย์” กวาดมาได้ 5 เขต ประกอบด้วย เขต 3-4-5-6 และ 8 ส่วน “พลังประชารัฐ” ได้มา 3 เขต คือ เขต 1-2 และเขต 7

โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย อำเภอพระพรหม เฉลิมพระเกียรติ ชะอวด และจุฬาภรณ์ มีผู้ลงสมัคร 39 พรรคการเมือง โดย “เทพไท” ได้ 33,310 คะแนน เอาชนะ อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เบอร์ 9 จากพลังประชารัฐ ที่ได้อันดับ 2 ที่ 28,742 คะแนน เป็นคะแนนอันดับ 1 และ 2 ที่มีช่องว่างห่างกันน้อยที่สุดจากคู่แข่ง 8 เขตเลือกตั้ง

ส่วนอันดับ 3 เป็นของว่าที่ ร.ท.สนั่น พิบูลย์ เบอร์ 5 จากพรรคภูมิใจไทย ได้ 15,490 คะแนน อันดับ 4 นรินทร์ เหลือสม เบอร์ 6 จากพรรคอนาคตใหม่ ได้ 11,754 คะแนน และอันดับ 5 ชยุต หนูสาย เบอร์ 14 จากพรรคชาติไทยพัฒนา ได้ 3,323 คะแนน

ขณะที่ประชาธิปัตย์ในฐานะเจ้าถิ่นกำลังหา “แคนดิเดต” ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขต 3 นครศรีธรรมราชแทนเทพไท โดยอยู่ระหว่างหารือภายใน ปรากฏว่าพลังประชารัฐ ในฐานะแกนนำรัฐบาลด้วยกันได้เริ่มขยับเลือกว่าที่ผู้สมัครเพื่อชิงเก้าอี้นี้ทันที โดยเบื้องต้น ส.ส.ภาคใต้ สนับสนุน “อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ” ผู้สมัครคนเดิมของพรรค คู่แข่งของ “เทพไท” เพื่อแก้มืออีกครั้ง เพราะคะแนนได้มา ห่างจากเทพไทเพียง 4,568 แต้ม

อย่างไรก็ตาม หากดูตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่อยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน มักจะหลีกทางให้กัน ไม่ส่งคนลงแข่งขันกันเอง ในเมื่อประชาธิปัตย์ถือเป็นเจ้าของพื้นที่เดิม

โดยเฉพาะก่อนหน้านี้ประชาธิปัตย์ได้วางบรรทัดฐานทางการเมืองความเป็นพรรคร่วมรัฐบาลต่อการเลือกตั้งซ่อม “เขต 4 ลำปาง- เขต7 ขอนแก่น- เขต 5 สมุทรปราการ” โดยหลีกทางให้พลังประชารัฐ ที่เคยชนะใน 3 พื้นที่นี้ทั้งหมด

ปัญหานี้จึงตกหนักอยู่ที่คณะกรรมการบริหารพรรค ล่าสุด “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ ตัดสินใจจะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 28 ม.ค.เพื่อขอให้หัวหน้าหรือแกนนำพรรค ไปทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน

“ขอไม่ให้ส่งผู้สมัครแข่งขันกันเองในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีธรรมราช เพื่อเปิดทางให้ประชาธิปัตย์ แข่งขันกับฝ่ายค้านหรือพรรคอื่นๆ ที่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล”

งานนี้ประชาธิปัตย์ ต้องลุ้นหนักว่าจะเคลียร์กับพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันได้หรือไม่ และหากเคลียร์ได้ก็อาจไม่ใช่ทางสะดวก ชนิดนอนมาเพราะเริ่มมีอดีตคนกันเอง เตรียมประเดิมเลือกตั้งของพรรคใหม่

โดย "กรณ์ จาติกวนิช” หัวหน้าพรรคกล้า อดีตรองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ที่แยกตัวออกไป ได้ประกาศแล้วว่า เขต 3 นครศรีธรรมราช จะเป็นพื้นที่ประเดิมเลือกตั้งสนามแรกของพรรคกล้าเช่นกัน

ทั้งหมด คือแรงกระเพื่อมยกแรก หลังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญมีผลถึงตำแหน่ง “เทพไท” ที่มีเดิมพันทางการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคผู้ท้าชิง ตัวเล่นใหม่ ที่น่าลุ้นอย่างยิ่ง.