‘มัสคาทีน ไอโอวา’ เมืองแห่งความหลัง'สีจิ้นผิง'
‘มัสคาทีน ไอโอวา’ เมืองแห่งความหลัง'สีจิ้นผิง' โดยช่วงไม่กี่ปีที่่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐตึงเครียดกันทั้งเรื่องการค้า เทคโนโลยี และอื่นๆ กระนั้นยังมีความหวังว่าจะหาทางออกได้ อย่างน้อยๆ ก็ที่เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในรัฐไอโอวาของสหรัฐ
เว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชียรายงานว่า เมื่อปี 2528 สี จิ้นผิงซึ่งยังเป็นเจ้าหน้าที่ตำแหน่งไม่สูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้มาเยือนเมืองมัสคาทีน รัฐไอโอวา ด้วยภารกิจศึกษางานด้านการเกษตร เขาได้สร้างสัมพันธ์กับเจ้าภาพ หนึ่งในนั้นคือ ซาราห์ แลนด์ ชาวเมืองมัสคาทีน ผู้ร่วมประสานงานจัดทริปให้สี
“เขามีความสุขมากๆ ที่ได้มาอเมริกา เพราะนี่เป็นครั้งแรก เขาเอาแต่ถาม ถาม ถาม” แลนด์ วัย 82 ปีกล่าวและว่า จีนเพิ่งเปิดประเทศ ชาวอเมริกันต้องการเรียนรู้จากจีน เช่นเดียวกับที่คนจีนอยากเรียนรู้จากสหรัฐเช่นกัน
เมื่อสีในฐานะรองประธานาธิบดีจีนได้กลับมาสหรัฐอีกครั้งในปี 2555 เขายืนกรานว่าต้องกลับไปเยือนมัสคาทีนเพื่อพบเพื่อนเก่าอย่างแลนด์
“สี จิ้นผิงบอกฉันว่า คุณรู้มั้ย ถ้าเราแลกเปลี่ยนกันทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นกีฬา ธุรกิจ ศิลปะ ถ้าคนของเรารู้จักกัน ประเทศของเราก็เข้ากันได้” แลนด์เล่า
เรื่องราวมิตรภาพแต่หนหลังของประธานาธิบดีจีนปูทางให้คนจีนสนใจและเข้ามาลงทุนในมัสคาทีน เมืองเล็กๆ ที่มีประชากร 24,000 คนแห่งนี้มากขึ้น เช่น ศูนย์ประชุมและโรงแรมเมอร์ริล มูลค่า 42 ล้านดอลลาร์ เปิดเมื่อปี 2561 สร้างด้วยความช่วยเหลือของนักลงทุนจีนรายหนึ่ง แลกกับการให้นักเรียนมัสคาทีไปร่วมโครงการในจีน และจีนสนใจทำท่าเรือริมแม่น้ำมิสซิสซิปปีตอนบน
แกลด เฉิง นักลงทุนชาวจีนผู้ฝันอยากสร้างมิตรภาพระดับโลก ตัดสินใจในปี 2558 ว่าจะใช้ชีวิตสองที่ระหว่างมัสคาทีนกับปักกิ่ง เขาถึงขนาดซื้อบ้านสวนของตระกูล Dvorchak ที่สีเคยพักในปี 2528 ปรับเป็นศูนย์มิตรภาพจีน-สหรัฐ
การลงทุนทั้งของเจิ้งและผู้ประกอบการชาวจีนรายอื่นๆ ช่วยสร้างงานให้กับชาวเมืองมัสคาทีน แต่เมื่อสหรัฐกับจีนเริ่มทำสงครามการค้ากันในปี 2561 นักท่องเที่ยวและการเดินทางทำธุรกิจระหว่างกันลดลงไปมากโรงแรมเมอร์ริลที่เคยคึกคักจึงว่างเป็นส่วนใหญ่
ปี 2560 จีนลงทุนโดยตรงในสหรัฐ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงเหลือ 5.4 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561, 5 พันล้านดอลลาร์ในปี 2562 และไตรมาสแรกของปี 2563 เหลือเพียง 200 ล้านดอลลาร์
ตอนที่เคนท์ คอร์ปอเรชัน นายจ้างรายใหญ่ของมัสคาทีนต้องการสร้างท่าเรือนานาชาติในไอโอวา บริษัทชิปปิงจีนอย่างคอสโกก็รับลูกแสดงความสนใจโครงการ แต่เมื่อสงครามการค้าส่งผลโครงการนี้จึงต้องชลอไปก่อน
ไดอานา บรอเดอร์สัน นายกเทศมนตรีมัสคาทีน โอดครวญว่า เมื่อผู้บริหารสองประเทศตัดสินใจ ผลกระทบย่อมส่งมาถึงเมืองเล็กๆ อย่างมัสคาทีน
ริค คิมเบอร์ลี เกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในไอโอวา ที่ธุรกิจกับจีนเคยรุ่งเรือง สี เคยมาเยือนไร่ถั่วเหลืองขนาด 10,120 ไร่ของเขาเมื่อปี 2555 และต้องการนำไปเป็นต้นแบบการทำเกษตรสมัยใหม่ในจีน เล่าถึงความร่วมมือระหว่างกัน
“เราเริ่มทำฟาร์มสาธิตจีน-สหรัฐ ที่มณฑลเหอเป่ย์ พวกเราในฐานะเกษตรกรผู้ปลูกถั่วเหลืองในสหรัฐ มีความสัมพันธ์กับจีนมานาน 35-40 ปี ผมเคยไปจีน 20 กว่าครั้ง ไปมากว่า 60 เมือง 12 มณฑล ผมแบ่งปันสิ่งดีๆ กับจีนไว้มาก เราช่วยกันสร้างสัมพันธ์นี้” คิมเบอร์ลีกล่าว
ฟาร์มมิตรภาพในเหอเป่ย์เริ่มต้นขึ้นในปี 2560 ส่วนหนึ่งของนิคมวิจัยและท่องเที่ยวเชิงเกษตร เชื่อมกับกรุงปักกิ่งได้ทั้งทางถนนและรถไฟความเร็วสูง แต่เมื่อสงครามการค้าปะทุ สื่อจีนไม่พูดถึงฟาร์มแห่งนี้
เมื่อรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในปี 2561 จีนก็ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีถั่วเหลืองสหรัฐและสินค้าอื่นๆ ในอัตรา 25% กำไรที่เคยได้ลดลง เกษตรกรหลายคนล้มละลาย
“ในฐานะประเทศใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ สหรัฐและจีนต้องการซึ่งกันและกัน เราอยากให้จีนซื้อสินค้าของเราต่อไป” เกษตรกรอย่างคิมเบอร์ลีเผยความรู้สึก
แม้สหรัฐเปลี่ยนรัฐบาลมาเป็นประธานาธิบดีโจ ไบเดน แต่ก่อนหน้านั้นเขาเคยบอกว่า สหรัฐต้อง “เล่นบทโหด” กับปักกิ่งรับมือกับการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาและทำการค้าไม่เหมาะสม นักวิเคราะห์การค้าคาดว่า รัฐบาลไบเดนจะใช้ภาษีกดดันจีนเปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐ ลดการอุดหนุนรัฐวิสาหกิจจีน และการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมอื่นๆ
แต่ท่ามกลางวาทะร้อนแรงทางการเมือง ก็ยังมีความหวังอยู่บ้างว่าความสัมพันธ์จะดีขึ้น นายกเทศมนตรีมัสคาทีนหวังว่าความทรงจำดีๆ ของสีต่อเมื่องเล็กๆ แห่งนี้จะช่วยแก้ไขความบาดหมาง
“เรามักมองข้ามความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่สานต่อกันมานานหลายปี ว่าสำคัญและช่วยเยียวยาบาดแผลใหญ่ในโลกนี้ได้” บรอเดอร์สันกล่าว ซึ่งนักธุรกิจอย่างเจิ้งก็เห็นด้วยว่า เมืองมัสคาทีนมีเรื่องราวพิเศษระหว่างจีนกับสหรัฐ
“มันมีค่ามากเพราะสัมพันธ์สหรัฐ-จีนเลวร้ายสุดๆ เราจึงต้องรักษาสิ่งมีค่าและปกป้องเรื่องราวมิตรภาพที่หาได้ยากนี้ไว้บอกเล่ากับประชาชนและคนรุ่นหลัง อย่าปล่อยให้มันแตกสลายไป” เจิ้งกล่าว
ส่วนเพื่อนเก่าอย่างแลนด์ มองว่า แทนที่จะทำสงครามการค้า เธออยากให้สหรัฐทำวิจัยอย่างดีที่สุด เพื่อสร้างโอกาสของการแข่งขัน
“เรามีปัญหาก็จริง แต่ฉันหวังว่าเราจะมีหนทางใหม่ๆ ในการแก้ปัญหา” เพื่อนเก่าแก่ของประธานาธิบดีจีนให้ความเห็น