เมื่อเวลา 15.45 น.นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเนื่องจากการความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาด แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชน แต่กลับพบว่าทำให้ประชาชนเจอความลำบาก เช่น การลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ ผ่านธนาคารกรุงไทย ที่พบประชาชนแออัดหน้าธนาคารเพื่อลงทะเบียน นอกจากนั้นยังพบความล้มเหลวของการควบคุมโควิด ระลอกสอง เพราะไม่สามารถควบคุมขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ ได้ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร ด้วย เพราะเป็นผู้กำกับดูแล และเกี่ยวข้องในกระบวนการ ทั้งส่วยแรงงานและ กลุ่มคาซิโน และคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน
นพ.ชลน่าน อภิปรายด้วยว่า สำหรับขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติและโรฮิงญา พบว่ามีส่วยแรงงาน ที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่หลายคน โดยเป็นกระบวนการทำงานเป็นทีมเริ่มจาก "ดาบ จ.120" ส่งให้ "เจ๊ อ." เพื่อนำแรงงานเถื่อนส่งไป 4 จังหวัด คือ กทม. , จ.สมุทรปราการ, จ.สมุทรสงคราม และ จ.สมุทรสาคร และคาดว่ามีแรงงานเถื่อเข้ามากว่า 2 ล้านคน ซึ่งจำนวนดังกล่าวเชื่อว่าสวนทางกับการตรวจคัดกรองแรงงานต่างด้าว ซึ่งตนขอตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใดถึงปกปิดข้อมูล
“ระบบการส่งส่วยแรงงานเถื่อนและกลุ่มคาซิโน คอลเซ็นเตอร์ มี ป.1 เป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแล และมีหัวหน้าทีมที่เป็นมือซ้าย มือขวา เช่น พ.ต.อ.ส.5 รุ่น42 สายตรง บิ๊กป.4รุ่น36 ถึงหัวหน้า อ.6 รุ่น36” นพ.ชลน่าน อภิปราย
นพ.ชลน่าน อภิปรายด้วยว่า ตนไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เพราะฝ่าฝืนคุณสมบัติของรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ยึดมั่นในหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยและศักดิ์ศรีของทหาร เพราะพฤติกรรมตัดตอนประชาธิปไตย ยึดครองอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ ผ่านกระบวนการ 3 ป. คือ ยึดอำนาจ, ทำรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ, จัดการเลือกตั้งและใช้อำนาจผูกขาด ร่วมกันคิด แบ่งหน้าที่กันทำ โดยพล.อ.ประยุทธ์ ยึดส.ว. และองค์กรอิสระ, พล.อ.ประวิตร คุมพรรคการเมือง และ พล.อ.อนุพงษ์ดูแลส่วนราชการภูมิภาคและราชการท้องถิ่น เพราะขาดมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ไร้ความสามารถ ไร้วุฒิภาวะและภาวะผู้นำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของนพ.ชลน่าน ที่ระบุถึงส่วยแรงงานข้ามชาติ และกลุ่มคาซิโนและคอลเซ็นเตอร์นั้น ได้ฉายภาพประกอบการอภิปราย โดยเป็นที่สังเกตว่าในเนื้อหาการอภิปราย ไม่ระบุรายละเอียดที่ชัดเจนตามที่ระบุไว้ในภาพฉาย.
