KTB เร่งแก้ระบบ 'เป๋าตัง' ขัดข้อง คนแห่ใช้แอพทะลัก กระทบ เราชนะ-คนละครึ่ง ใช้ไม่ได้
กรุงไทย รับระบบขัดข้อง หลังมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก เข้ามาใช้งานผ่านแอพ "เป๋าตัง" ทั้งผู้ใช้สิทธิ เราชนะ และคนที่ต้องการยืนยันตัวตนผ่านแอพ ส่งผลให้มีผู้ใช้บริการจำนวนมากเข้ามาใช้บริการพร้อมกัน ชี้อยู่ระหว่างเร่งแก้ระบบ -เปิดท่อรับคนเข้ามาใช้บริการเพิ่ม
นายสมคิด จิรานันตรัตน์ ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ผู้อยู่เบื้องหลังในการทำระบบ ให้กับโครงการรัฐ เช่น ชิมช้อปใช้, เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง, เราชนะ กล่าวว่า ปัจจุบันการใช้งานผ่านแอพ “เป๋าตัง” มีปัญหาขัดข้องชั่วคราว เนื่องจากมีผู้ใช้บริการเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก
โดยมีหลายกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการผ่านแอพ “เป๋าตัง” พร้อมๆกัน ไม่เพียงแค่ คนต้องการใช้สิทธิ “เราชนะ”เราเท่านั้นแต่ยังพบว่า มีผู้ใช้บริการบางส่วน เข้ามายืนยันตัวตนผ่านแอพ “เป๋าตัง”ในวันนี้ด้วย เพื่อรับสิทธิ “เราชนะ” ซึ่งกลุ่มนี้อาจใช้ระยะเวลาอยู่ในแอพฯค่อนข้างนาน เพื่อให้การยืนยันตัวตนสำเร็จ
ดังนั้น จึงกระทบต่อ การเข้ามาใช้สิทธิ เราชนะ และคนละครึ่ง ที่เข้ามาใช้สิทธิในเบื้องต้นด้วย เพราะมีผู้ใช้บริการจำนวนมากเข้ามาพร้อมๆกัน มากกว่าระบบ หรือท่อที่วางไว้
ซึ่งระบบของ “เป๋าตัง”ในเบื้องต้น เปิดให้ผู้ใช้บริการเข้ามาพร้อมๆกันเพียง1ล้านคนเท่านั้น ดังนั้น หลังจาก 1ล้านคนไปแล้ว ทำให้ยังไม่สามารถเข้าแอพ “เป๋าตัง”ได้ ดังนั้นคาดว่าหลังจากนี้ระบบจะค่อยๆดีขึ้น หลังจาก 1 ล้านคนแรกที่ทำธุรกรรมพร้อมกัน ทำธุรกรรมเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ทางกรุงไทย อยู่ระหว่างแก้ไขระบบ และขยายท่อ เพื่อรองรับผู้ใช้บริการเข้ามาใช้งานพร้อมๆกันให้มากขึ้นให้มากกว่า 1 ล้านคนด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ใช้งานผ่านแอพ “เป๋าตัง”
แต่อย่างไรก็ตาม ขอเรียนว่า การใช้สิทธิ “เราชนะ” ยังมีระยะเวลาใช้จ่ายได้ เพราะยอดเงินยังสะสมอยู่ในแอพ “เป๋าตัง” ถึง 31 พ.ค. 2564 ดังนั้นผู้ใช้บริการ “เราชนะ” ไม่จำเป็นต้องเร่งใช้จ่าย 2,000 บาทให้หมด หรือใช้จ่ายในวันนี้ ยังสามารถใช้จ่ายผ่านแอพ “เป๋าตัง”ได้ต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นพ.ค.ที่กำหนดไว้
“วันนี้เฉพาะคนที่ใช้เราชนะ ไม่ได้มีปัญหา ระบบรองรับได้ บางส่วนก็สามารถใช้งานได้ แต่เราพบว่ามีบางส่วน ที่เข้ามายืนยันตัวตนผ่านแอพเป๋าตังวันนี้ด้วย กลุ่มนี้จะอยู่ในระบบนาน เพราะมีขั้นตอนในการยืนยันตัวตน ทำให้คนที่ต้องการใช้แอพเป๋าตังเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก ทำให้คนที่เกิน 1ล้านคนอาจยังไม่สามารถทำธุรกรรมได้ แต่หลังจากนี้จะทยอยทำได้แน่นอน และที่เราเซ็ทท่อเพื่อรับผู้ใช้งานไว้ที่ 1ล้านคน ส่วนหนึ่งก็เพื่อติดตามพฤติกรรมการใช้จ่ายและผู้ใช้งานผ่านแอพด้วย เพราะหากเปิดท่อทั้งหมด ปัญหาอาจจะตามมาภายหลังได้”