'ศรีสุวรรณ’ จี้ ‘กรมศิลป์ฯ’ สอบปม ‘วัดยานนาวา’ ทุบทิ้งโบราณสถาน
“ศรีสุวรรณ” เผย “วัดยานนาวา” เป็นพระอารามหลวง ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรนานแล้ว การรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างโบราณ ไม่ทราบว่ากรมศิลปากรได้อนุญาตและดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.โบราณสถานฯ หรือไม่
นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯได้ออกมาท้วงติงคัดค้านถึงแผนการปรับปรุงวัดยานนาวา พระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ โดยความพยายามที่จะรื้อถอนกุฏิโบราณรูปแบบทรงไทย 2 ชั้น ที่เป็นเอกลักษณ์แบบวัดยานนาวาทิ้งไป โดยส่วนหนึ่งนำไปทำเป็นที่จอดรถนั้น
แต่ปรากฏว่า ขณะนี้กำลังจะทำการรื้อถอนกุฏิอีก 7 หลังและอาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรม ที่เป็นเอกลักษณ์แบบวัดยานนาวามีศิลปปูนปั้นหน้าบรรณอันทรงคุณค่ายิ่งที่เหลืออยู่เป็นชุดสุดท้ายจาก 15 หลังทิ้งไปทั้งๆที่กุฏิทั้งหมดยังมีพระภิกษุสามเณรพำนักอาศัยอยู่ ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งว่าวัดแห่งนี้ได้ดำเนินการพัฒนาวัดมาอย่างยาวนานอย่างมีพิรุธ เพราะยังไม่มีโครงการใดแล้วเสร็จเลย ซึ่งสมควรที่จะรีบเร่งดำเนินการส่วนดังกล่าวก่อน ตัวอย่างเช่น 1.การบูรณะพระอุโบสถ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาร่วม 10 ปี แล้วแต่ก็ยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างใดๆ 2.การให้บริษัทของเอกชนมาเช่าพื้นที่ดินของวัดยานนาวาด้านทิศเหนือเริ่มดำเนินการมา 10 กว่าปีแล้ว แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่ซึ่งตอนนี้ก็ยังทำอะไรไม่ได้ (น่าสงสัยมาก) และ 3.การก่อสร้างหอศิลป์เฉลิมพระเกียรติฯ ริมฝั่งแม่น้าเจ้าพระยา เริ่มดำเนินการมาจะร่วม 10 ปีแล้ว การก่อสร้างมีเพียงส่วนฐานราก ก็เพิ่งจะโพล่พ้นพื้นผิวดินเท่านั้น และตอนนี้ก็หยุดก่อสร้างมานานแล้ว น่าสงสัยมาก
อีกทั้งวัดยานนาวา เป็นพระอารามหลวง และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากรมานานแล้ว การรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างโบราณดังกล่าว ไม่ทราบว่ากรมศิลปากรได้อนุญาตและดำเนินการตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 2504 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 2535 แล้วหรือไม่
กาลอดีต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงเคยมีพระราชดำรัสเกี่ยวกับโบราณสถานความตอนหนึ่งว่า “การสร้างอาคารสมัยนี้ คงจะเป็นเกียรติสำหรับผู้สร้างคนเดียว แต่เรื่องโบราณสถานนั้นเป็นเกียรติของชาติ อิฐเก่าๆ แผ่นเดียวก็มีค่าควรช่วยกันรักษาไว้.... ไม่ควรจะเอาของใหม่ไปปนกับของเก่า ควรจะรักษาของเก่าไว้เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตใจของพลเมือง และสิ่งเหล่านี้เป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ จึงควรรักษาไว้”
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงได้ร้องเรียนต่ออธิบดีกรมศิลปากรและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพื่อขอให้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบวัดดังกล่าว รวมทั้งระงับการรื้อถอนกุฏิและอาคารปริยัติธรรมดังกล่าวเสีย และห้ามก่อสร้างอาคารสิ่งแปลกปลอมใหม่ๆขึ้นในวัดดังกล่าว แต่หากยังไม่เป็นข้อยุติสมาคมฯจะนำความยื่นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด