‘CPF’เล็งเปิดตัวสินค้ากัญชงปีนี้ หนุนยอดขาย

นางกอบบุญ ศรีชัย เลขานุการ และหัวหน้าฝ่ายงานนักลงทุนสัมพันธ์และตลาดทุน บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์ยอดขายในปี 2564 จะไม่เติบโต จากปี 2563 ที่มียอดขาย 589,712.92 ล้านบาท เนื่องจาก บริษัทจะเปลี่ยนการรับรู้รายได้และกำไรจากบริษัท Chia Tai Investment Co., Ltd. (CTI)เป็นบริษัทร่วม จากเดิมที่เป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้น 100% จากสัดส่วนการถือหุ้นลดลง เหลือ18% หลังจากที่ CTI มีการเพิ่มทุนเพื่อชำระค่าซื้อหุ้น43บริษัท ซึ่งประกอบธุรกิจสุกร ในจีน จาก Chia Tai Animal Husbandry Investment (Beijing) Co., Ltd. ดังนั้นเมื่อบันทึกตามมาตรฐานบัญชีแล้วยอดขายจะลดลง จากปีก่อนที่มียอดขายเกือบแสนล้านบาท

สำหรับกำไรสุทธิปีนี้ของบิรษัทคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก จากปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 26,022 ล้านบาท เนื่องจาก เพราะจะรับรู้กำไรจากธุรกิจสุกรครบวงจร จากเดิมที่รับรู้แต่กำไรธุรกิจอาหารสัตว์ในจีนเท่านั้น ดังนั้นกำไรจากบริษัทร่วมทุนดังกล่าวน่าจะมีการเติบโตที่โดดเด่นในปีนี้เมื่อเทียบกับปีก่อน ประกอบกับโควิด-19 ในหลายประเทศคลี่คลายและเปิดประเทศมากขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น และการดำเนินงานในทุกประเทศเติบโตขึ้น ด้วยการขยายงานต่อเนื่องทั้งปริมาณการผลิต การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน การลดต้นทุน รวมถึงการปรับตัวเข้าสู่ธุรกิจสุกรในจีนที่มีศักยภาพการเติบโตสูง และการเข้าไปซินเนอร์จี่กับโลตัสในการทำการค้าร่วมกันมากขึ้น

สำหรับงบลงทุนในปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ใช้ 26,000 -27,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้ในการลงทุนในต่างประเทศ ปัจจุบันมี 17 ประเทศ โดยเฉพาะที่เวียดนาม ยังมีศักยภาพโตสูง รวมถึงการลงทุนในหลายประเทศที่ยังมีการขยายกิจการต่อเนื่อง เช่น รัสเซีย และฟิลลิปปินส์

ขณะเดียวกันยังศึกษาเพื่อมองหาโอกาสการควบรวมหรือซื้อกิจการและการเป็นฐานการผลิตอาหารในต่างประเทศอยู่ต่อเนื่อง เพราะเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ในการขยายงานที่รวดเร็วและให้ผลตอบแทนที่ดี เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทที่ต้องการเป็นครัวของโลก

นอกจากนี้บริษัทเน้นการวิจัยและพัฒนาคุณภาพอาหาร ด้วยแปรรูปและสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้าอาหารปลอดภัย เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผู้บริโภค ด้วยสินค้าเพื่อสุขภาพที่หลากหลาย

ล่าสุด ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาวิจัยและพัฒนาเตรียมที่จะออกจำหน่ายสินค้าอาหารกัญชงและโปรตีนจากพืชภายในปีนี้ โดยฝ่ายวิจัยของบริษัทมองว่า เป็นตลาดกัญชงในไทยเป็นตลาดใหม่และนี้ผู้บริโภคให้ความสนใจสินค้ากัญชงค่อนข้างสูง จึงมีแผนที่จะผลิตอาหารที่มีส่วนผสมของกัญชง คาดว่าในระยะ 2 ปีข้างหน้าบริษัท น่าจะมียอดขายเติบโตที่ดี