'บิ๊กป๊อก' ลั่นต้องทำงานเชิงรุกแก้ไฟป่า
"รมว.มหาดไทย" สั่งการจังหวัดเชียงใหม่ ระดมพลทำงานแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ ย้ำต้องทำงานแบบบูรณาการ เจ้าหน้าที่รัฐควรทำงานเชิงรุก ทำความเข้าใจกับชาวบ้านลดการเผา
เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 11 มีนาคม 2564 ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์ภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมร่วมคณะกรรมการขับเคลื่อนไทยไปด้วยกันระดับจังหวัดเชียงใหม่ โดยมี นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
ระหว่างการประชุม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้มีข้อสั่งการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาปัญหาหมอกควันและไฟป่า ที่กำลังสร้างปัญหาให้กับจังหวัดเชียงใหม่อย่างหนัก โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กล่าวว่า การทำงานแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า ผู้ว่าราชจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานของกระทรวงมหาดไทยที่เกี่ยวข้อง จะต้องทำงานแบบบูรณาการการทำงานกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการแก้ไขปัญหา ต้องสนับสนุนอย่างเต็มที่
ปัญหาจุดความร้อนยังคงเป็นไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สาเหตุมาจากการเผาทั้งการบริหารจัดการเชื้อเพลิง การเผาทำการเกษตร จุดนี้ต้องยอมรับว่าการสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านเป็นสิ่งสำคัญ แต่ชาวบ้านมักจะอ้างว่า ที่เผาเพราะไม่มีทุนในการไถกลบแทนการเผา และการเผาเพื่อหาของป่าเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้านที่ยากจะเปลี่ยนแปลง ตรงนี้ก็เข้าใจชาวบ้าน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รัฐต้องลงไปทำงานแบบเชิงรุกให้มากขึ้น ถ้าติดปัญหาตรงไหนสามารถเสนอขึ้นมาได้ จะพิจารณาการสนับสนุนเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเกิดความยั่งยืน
หลังจากประชุมเสร็จ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ขณะนี้กรอบการทำงานดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาหมอกควันและป่า ยังเป็นกรอบของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ยังคงปฏิบัติงานตามกรอบดังกล่าวอยู่ ขณะที่สถานการณ์ไฟป่ามีจุดความร้อนลดลง แต่ก็ยังคงมีควันมาจากพื้นที่อื่นในประเทศและต่างประเทศเข้ามา อย่างไรก็ตามทุกภาคส่วนยังคงเร่งดำเนินการ เพราะว่าหลายพื้นที่ในภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 ยังคงสูงอยู่ จนมีผลกระทบกับพี่น้องประชาชน
โดยขณะนี้ กำลังใช้แผนการทำงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการเร่งดำเนินการในการแก้ไขปัญหาในปีนี้ ส่วนปีต่อไป จะเน้นเรื่องลดการเผาในพื้นที่โล่งให้ลดน้อยลง ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยกระทรวงมหาดไทย ได้มีการสนับสนุน เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ ที่มีความสามารถ โดยเฉพาะในการดับไฟเข้ามาช่วยดับไฟในพื้นที่ยากลำบาก มีความเชื่อมั่นและมั่นใจว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในไม่ช้า