สยามแก๊สฯ ศึกษารุกธุรกิจ LNG

สยามแก๊สฯ ศึกษารุกธุรกิจ LNG

สยามแก๊สฯ เร่งศึกษาสร้างคลังเก็บ LNG (หนองแฟบ) รองรับนำเข้า 1 ล้านตันต่อปี มูลค่า 6-7 พันล้านบาท พร้อมผนึก ปตท. ลุยศึกษาโอกาสร่วมทุนบุตลาดLNG และ LPGในจีน

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า บริษัท อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) หลังจากบริษัทมีความพร้อมด้านสถานที่จัดตั้งคลังก๊าซ LNG ที่บ้านหนองแฟบ จ.ระยอง ซึ่งเป็นที่ดินของบริษัทเอง เนื้อที่กว่า 400 ไร่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(EIA) ที่ผ่านการทำประชาพิจารณ์ครั้งแรกไปแล้ว และเตรียมจัดทำประชาพิจารณ์ครั้งที่สอง โดยหากได้รับอนุมัติ EIA แล้ว คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างคลังประมาณ 3 ปี หรือแล้วเร็วประมาณปี 2567-2568

เบื้องต้น โครงการดังกล่าว จะใช้เงินลงทุนประมาณ 6,000-7,000 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างคลังเก็บก๊าซ LNG จำนวน 2 แท้งค์ รองรับก๊าซฯได้ 80,000-100,000 ตันต่อแท้งค์ ซึ่งจะสามารถรองรับ LNG ได้ประมาณ 1 ล้านตันต่อปี โดยจะเป็นการจัดหาและนำเข้า LNG จากต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีซัพพลายเออร์หลายรายมาเสนอขาย LNG ทั้งแถบตะวันออกกลาง สหรัฐ และการ์ต้า เป็นต้น ประกอบกับที่ผ่านมา บริษัทได้เตรียมศึกษาดูงานธุรกิจ LNG ในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ เยอรมัน และจีน ซึ่งเป็นการขนส่ง LNG ด้วยรถขนส่งประมาณ 300-400 คัน ก็มีความปลอดภัย ไม่แตกต่างจากการขนส่งก๊าซผ่านระบบท่อ

161658003767

ดังนั้น บริษัทมีความพร้อมที่จะรุกเข้าสู่ธุรกิจ LNG และที่ผ่านมา ก็ได้จัดตั้งบริษัท สยาม แอลเอ็นจี จำกัด หรือ SLNG ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่ SGP ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99% เพื่อรองรับการทำธุรกิจ LNG

“การเปลี่ยนผ่านพลังงานในอนาคต อาจทำให้ความต้องการใช้ LPG ในภาครถยนต์และอุตสาหกรรมจะลดลง และมุ่งสู่พลังงานทางเลือกอื่นๆที่จะมาทดแทนการใช้น้ำมันเตา และLPG ในกระบวนการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น และLNG ก็เป็นเชื้อเพลิงทางเลือก ขณะที่บริษัทเองก็มีโครงข่ายลูกค้าอุตสาหกรรมจำนวนมาก ฉะนั้น การหันเข้าสู่ธุรกิจ LNG จึงเป็นการเตรียมพร้อมขยายธุรกิจให้ครอบคลุมพลังงานที่หลากหลายมากขึ้น” นางจินตณา กล่าว

อย่างไรก็ตาม การจะดำเนินธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายก๊าซ LNG ได้นั้น จะต้องมีการขออนุญาตการเป็นผู้ค้าตามมาตรา 7 ซึ่งบริษัทเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตอยู่แล้ว และจะต้องขอใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper) จากภาครัฐด้วย

161658005185

นอกจากนี้ บริษัท ยังเตรียมขยายการเติบโตในธุรกิจ LNG โดยเมื่อเร็วๆนี้ ได้ บริษัท ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ร่วมกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT เพื่อร่วมกันพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการ Logistics และ Supply chains ของ LNG และ LPG ในประเทศและต่างประเทศ

พร้อมแสวงหาโอกาสในการพัฒนาตลาด LNG และ LPG รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Propane และ Butane ในต่างประเทศต่อไป เนื่องจาก LNG เป็นเชื้อเพลิงสะอาด และมีแนวโน้มความต้องการใช้เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศจีน และภูมิภาคอาเซียน

“ความร่วมมือระหว่างบริษัทกับปตท. เป็นการศึกษาโอกาสร่วมทุนกันในธุรกิจ LNG และ LPG ในประเทศจีน ซึ่งสยามแก๊สฯ เป็นบริษัทที่ทำธุรกิจในจีนมา 10 ปี มีพันมิตรที่เหนี่ยวแน่น มีความแข็งแกร่งด้านโลจีสติกส์ ขณะที่ปตท.ก็มีแผนจะเข้าไปทำตลาดLNG ในจีน ก็เป็นโอกาสที่จะร่วมมือกันผลักดันให้ธุรกิจ LNG และ LPG เติบโตในตลาดจีนมากขึ้น ส่วนการทำตลาดจะแบ่งโซนแยกฐานลูกค้ากันอย่างชัดเจน ซึ่งบริษัทแข็งแกร่งแถบจีนตอนใต้ ส่วนปตท.จะมีฐานอยู่ทางเหนือของจีน” นางจินตณา กล่าว