ASIAN เตรียมเงินพันล้าน เล็งซื้อกิจการ-เข้าศึกษา2ดีล
เอเชี่ยนซี เตรียมเงินเข้าซื้อกิจการ 500-1,000 ล้านบาท เผยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ 1-2 ดีลหนุนการเติบโต ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้คาดโตดี ธุรกิจอาหารแช่แข็งและอาหารสัตว์เลี้ยง มีออเดอร์เข้ายาวไปกลางปี มั่นใจปีนี้รักษาอัตรากำไรที่ 14-15% และทำยอดขาย 9.5พันล้านบาทโต 8-10%
นายเอกกมล ประสพผลสุจริต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท เอเชี่ยนซี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ASIAN เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าในการเข้าซื้อกิจการนั้น วางงบลงทุนไว้ราว 500-1,000 ล้านบาท ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ 1-2 รายการ
เราพยายามมองหากิจการที่เกี่ยวกับผู้จัดจำหน่าย หรือเป็นตัวแทนในการกระจายสินค้าและการทำแบรนด์ เพื่อให้เราสามารถเข้าใกล้ผู้บริโภคได้มากขึ้น รวมถึงมองหากำลังการผลิตในกลุ่มที่เป็นอาหารสัตว์เลี้ยงแบบเม็ด เนื่องจากเรามองว่าด้วยประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและฐานลูกค้าที่มีอยู่ในมือ จะทำให้เราเติบโตในธุรกิจนี้ได้
และหลังจากบริษัท ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN) ร่วมทุนบริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด จัดตั้งบริษัท อินเตอร์ เพ็ททรินา จำกัด ขณะนี้ยังไม่มีการร่วมทุนเพิ่มเติม แต่อยู่ในระหว่างร่วมกันผลักดันแบรนด์ “MARIA”ให้มีความชัดเจนมากขึ้นในการเข้ามารุกธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงในปีนี้
ทางด้านงบลงทุนในปีนี้บริษัทเตรียมไว้ที่ 400 ล้านบาท แบ่งเป็น การเพิ่มไลน์การผลิตธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและเพิ่มประภาพการผลิตธุรกิจอาหารแช่แข็ง จำนวน 300 ล้านบาท การปรับปรุงกระบวนการการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น นำหุ่นยนต์เข้ามา จำนวน 70 ล้านบาท และการทำระบบการบริหารทรัพยากรองค์กร(ERP) และปรับปรุงไลน์การผลิตอาหารสัตว์น้ำและอาหารแช่แข็งอีก30ล้านบาท
นายเอกกมล กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส1ปีนี้คาดว่ายอดขายยังดีกว่าปีก่อน มาจากความต้องการอาหารทอดแช่แข็งยังมีเข้ามาต่อเนื่องมีออเดอร์เข้ามาถึงไตรมาส2 ปีนี้ เช่นเดียวกับอาหารสัตว์เลี้ยงประเภท ถ้วยพลาสติกและถุงเพ้า มีออเดอร์เข้ามาไปถึงเดือนพ.ค.
ส่วนทางด้านสถานการณ์เงินบาทในเช่วงดือนมี.ค. ปรับตัวอ่อนค่าขึ้นมาบ้าง ทำให้ผลการดำเนินงานในไตรมาส1ปีนี้ยังมีแนวโน้มที่ดี
อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาสแรกของทุกปี จะเป็นช่วงโลซีซั่น ของธุรกิจอาหารสัตว์น้ำและอาหารแช่แข็งอาจเห็นยอดขายต่ำกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบไตรมาสก่อนหน้า แต่เรายังพยายามเพิ่มยอดขาย แม้ยังมีปัญหาตู้คอนเทรนเนอร์ขาดแคลนแม้ไม่ได้กระทบกับเรามากแต่เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการคาดการณ์ยอดขายหรือคาดการณ์ผลประกอบการต้องประเมินสถานการณ์ต่อไป อย่างไรก็ดีลูกค้ายังเป็นผู้รับภาระในการจัดการตู้คอนเทรนเนอร์ ดังนั้นจึงขึ้นกับลูกค้าว่าในแต่ละช่วงความต้องการสินค้ามากน้อยหรือเร่งด่วนแค่ไหน
บริษัทมั่นใจว่าในปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมาย มาจากเพิ่มกำลังการผลิตยังเป็นไปตามแผน และแม้อัตราแลกเปลี่ยนจะไม่กระทบยอดขายอาหารสัตว์เลี้ยงมากนัก แต่ในกลุ่มอาการแช่แข็ง ถ้าเงินบาทแข็งค่ามากเกินไป นอกจากกระทบอัตรากำไรแล้วและยังจะกระทบความสามารถในการแข่งขันบางส่วน ส่วนแผนการจัดกาวัตถุดิบยังสามานถทำไปตามเป้า นอกจากนี้หาสถานการณ์โควิดคลี่คลาย หลายประเทศกลับมาเปิดประเทศได้ ทำให้การเติบโตของเราในจีนกลับมาทำได้ตามแผน ก็อาจจะทำให้เราเติบโตมากกว่าเป้าหมาย
สำหรับเป้าหมายปี2564 รักษาอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ระดับ 14-15% จากปีก่อน 16.1% มาจาการการติดตามปิดความเสี่ยงค่าเงินบาท และการเติบโตรายได้อย่างต่อเนื่องของธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงและอาหารสัตว์น้ำ ทั้งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดธุรกิจอาหารสัตว์น้ำมากขึ้น และแนวโน้มของตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะตลาดในสหรัฐที่เติบโตดี
ในปีนี้ตั้งเป้ารายได้ยอดขาย 9,500 ล้านบาท เติบโต8-10% จากปีก่อน มาจากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 3,600 ล้านบาท เติบโต4% ธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ 1,700 ล้านบาท เติบโต26% ธุรกิจอาหารแช่แข็ง 3,200 ล้านบาท เติบโต 7% และธุรกิจทูน่า 1,100ล้านบาท เติบโต 4%