อึ้ง! ค้ายาบ้าโซเชียลโต 10,000 เครือข่าย ดักจับกว่า 3 แสนคดี ชี้ 90% เป็นผู้เสพ
ป.ป.ส. เผยสถิติ 6 เดือน รับแจ้งคดียาเสพติดแล้วกว่า 5 พันเรื่อง พบการค้าผ่านโซเชียลเติบโตกว่า 1 หมื่นเครือข่ายผู้ค้า ติดตามดักจับกว่า 3 แสนคดี ชี้ 90% เป็นผู้เสพ ย้ำผู้ปกครองดูแลการใช้โซเชียลของบุตรหลาน หวั่นถูกล่อลวงเข้าเครือข่ายค้ายา
นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดแถลง ผลการดำเนินงาน หลังรับแจ้งร้องเรียนปัญหายาเสพติดผ่านสายด่วน 1386 ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2563 - 24 มีนาคม 2564 มีการรับร้องเรียนทั้งสิ้น 7,957 เรื่อง ดำเนินการแล้ว 4,864 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 61.13 จับกุมผู้เสพ จำนวน 810 ราย พาผู้เสพเข้ารับการบำบัด จำนวน 218 ราย จับกุมผู้กระทำความผิด 176 ราย และออกหมายจับ 9 ราย
สำหรับยาเสพติดของกลางที่ยึดได้ เป็นยาบ้า 79,280 เม็ด, ไอซ์ 879 กรัม เฮโรอีน 3.4 กรัม, กัญชาสด 15,500 กรัม , กัญชาแห้ง 111กรัม ยาแก้ไอ 740 กรัม เคตามีน 44 กรัม
ขณะเดียวกัน การค้ายาเสพติดผ่านสื่อโซเชียล ที่พบมากขึ้น สำนักงาน ป.ป.ส. ได้จัดชุดติดตามเครือข่ายค้ายาเสพติดในโซเชียลร่วมกับตำรวจ ซึ่งพบกว่า 10,000 เครือข่าย พบพฤติการณ์ล่อลวงเยาวชนเข้ามาเป็นเครือข่ายค้ายา และจัดส่งยาเสพติดผ่านทางพัสดุภัณฑ์ โดยใช้โซเชียลของแก๊งค้ายา เปิดการค้าเป็นกลุ่มผู้ค้ารายย่อยหรือระดับล่าง ซึ่งในแต่ละปี มีการจับกุมคดียาเสพติดผ่านทางโซเชียล 200,000-300,000 คดี ในจำนวนนี้มากกว่าร้อยละ 90 เป็นผู้เสพ โดย ป.ป.ส. ได้ร่วมกับตำรวจจัดชุดติดตามพร้อมประสานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ให้สั่งปิดเว็บไซต์ที่กระทำผิด
“ฝากเตือนไปยังผู้ปกครอง ให้เฝ้าระวังบุตรหลาน เยาวชน ที่สามารถเข้าถึงโซเซียลได้ง่าย ทำให้เด็กตกเป็นเหยื่อการค้ายาเสพติดด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ถูกดึงให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวโดยไม่ตั้งใจ" เลขาฯ ป.ป.ส.
สำหรับพี่น้องประชาชนที่พบพฤติการณ์ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแสยาเสพติดผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ 1. สายด่วน 1386 โทรได้ตลอด 24 ชั่วโมง 2. หนังสือร้องเรียนถึงสำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนกลาง/ส่วนภูมิภาค 3. การแจ้งเบาะแสด้วยตนเองได้ที่สำนักงาน ป.ป.ส.ส่วนกลาง/ส่วนภูมิภาค และ 4. การแจ้งผ่านเว็บไซต์ ป.ป.ส. https://1386.oncb.go.th
นายวิชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า สำนักงาน ป.ป.ส. และกระทรวงยุติธรรม มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อลดความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน สร้างสังคมปลอดภัยและน่าอยู่ ซึ่งสิ่งสำคัญที่จะทำให้สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด คือ การรับฟังปัญหาจากพี่น้องประชาชนโดยตรง โดยกระทรวงยุติธรรม ตระหนักถึงประเด็นนี้ จึงได้ลงพื้นที่ เพื่อพบปะพูดคุย รับฟังปัญหา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจถึงความคืบหน้าของการดำเนินงานในด้านต่างๆ ของแต่ละชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด ในการลงพื้นที่ ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2564 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม จะสร้างการรับรู้ในประเด็นแนวทางการปราบปรามยาเสพติด โดยอาศัยนโยบายการยึดทรัพย์สิน ตัดวงจรเครือข่ายการค้ายาเสพติด รวมถึงการจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจเฝ้าระวัง (JSOC) ขึ้น เพื่อทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังและติดตามผู้พ้นโทษในคดีสะเทือนขวัญ ด้วยกลไกทางสังคมและความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการป้องกันการกลับไปกระทำผิดซ้ำของผู้พ้นโทษ เป็นต้น