การเมือง
"อดีตที่ปรึกษา กรธ." ห่วง ข้อเสนอ "พปชร." แก้ระบบเลือกตั้ง ฟื้นเผด็จการรัฐสภา
เจษฎ์ โทณะวณิก ชี้ ญัตติแก้รัฐธรรมนูญ คืนระบบเลือกตั้ง รัฐธรรมนูญ40 สร้างระบบฟื้นเผด็จการรัฐสภา -จี้ "ภท.-ปชป." ยึดหลักการแก้รัฐธรรมนูญโดยประชาชนมีส่วนร่วม
นายเจษฎ์ โทณะวณิก อดีตที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีข้อเสนอของพรรคพลังประชารัฐต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยปรับระบบเลือกตั้งจากจัดสรรปันส่วนผสม เป็นการเลือกตั้งแบบรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ให้มีส.ส.เขต 400 คนและส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน ว่า การเลือกตั้งในปี 2540 ที่ทำให้รัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้มแข็ง และทำให้รัฐสภาถูกมองว่าเป็นเผด็จการรัฐสภา และทำให้การเมืองล้มเหลว ดังนั้นการแก้ไขให้รัฐธรรมนูญกลับมาใช้ระบบเลือกตั้งที่เคยถูกมองว่ามีปัญหาอาจถูกวิจารณ์ได้ ส่วนกรณีที่กำหนดให้ส่งเลือกตั้งส.ส.เขต 100 เขต นั้น ตนมองว่าปิดกั้นพรรคการเมืองขนาดเล็กมากเกินไป ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นความต้องการของพรรคพลังประชารัฐ หรือความต้องการของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งกรณีดังกล่าวทำให้พรรคการเมืองขนาดเล็กไม่สามารถดำเนินกิจกรรมทางการเมืองได้ และที่สำคัญการเสนอดังกล่าวพรรคพลังประชารัฐควรถามพรรคร่วมรัฐบาลอย่าง พรรคชาติพัฒนา ว่าการเลือกตั้งคร้ังที่ผ่านมาส่งส.ส.ถึง 100 เขตหรือไม่
“รัฐธรรมนูญ 2540 ออกแบบให้รัฐบาลเข้มแข็ง แต่ระบบนั้นปูทางไปสู่เผด็จการรัฐสภา ดังนั้นการแก้ไขหรือเขียนเนื้อหาเรื่องระบบเลือกตั้งใหม่ ต้องระมัดระวัง โดยที่ผ่านมารัฐธรรมนูญ 2560 นั้นพยายามแก้ไขความเข้มแข็งมากเกินไป แต่ไม่ได้ทำให้ใครอ่อนแอ” นายเจษฎ์ กล่าว
อดีตที่ปรึกษา กรธ. กล่าวด้วยว่าตนอยากเห็นพรรคภูมิใจไทยและพรรคประชาธิปัตย์ ยึดมั่นหลักการ ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ให้ประชาชนมีส่วนร่วมและผลักดันการบูรณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แม้ว่าฝั่งของพรรคพลังประชารัฐรวมถึงส.ว.จะมีเสียงมากกว่าก็ตาม อย่างไรก็ดี หากการแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ รัฐบาลต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ เพราะที่ผ่านมาเคยมีการสร้างมาตรฐานดังกล่าวไว้ โดยพรรคประชาธิปัตย์ และถือว่าเป็นการแสดงสปีริตที่ดี.