สุดสลด! ต้นคะเคียมล้มฟาดช้าง ล้ม 3 เชือก บาดเจ็บ 3 เชือก
พายุพัดถล่มอำเภอแม่วาง อย่างหนัก ส่งผลให้ต้นตะเคียนสูง 50 เมตร ล้มฟาดทับช้างบาดเจ็บ 3 เชือก และล้ม 3 เชือกทันที ขณะที่ช้างอีก 2 เชือกเข้าช่วยเหลือได้ทันนำส่ง รพ.ช้างฯ ลำปาง ขณะที่อีก 1 เชือกยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ในปางช้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดพายุพัดถล่มอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ และเกิดต้นไม้ใหญ่ล้มทับช้างได้รับบาดเจ็บ 3 เชือก และล้ม 3 เชือก ภายในปางช้างอำเภอแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ สัตวแพทย์หญิงทิตฏยา จรรยาเมธากุล สัตวแพทย์ประจำสมาคมสหพันธ์ช้างไทย กล่าวว่า หลังจากที่เกิดอุบัติได้มีการประสานสัตวแพทย์ จากศูนย์วิจัยช้างและสัตว์ป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย จังหวัดลำปาง, Patara Elephant Farm และคลินิกช้างปางช้างแม่แตง ระดมทีมแพทย์เข้าไปช่วยเหลือเข้าไปช่วยเหลือช้างบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต้นไม้ล้ม ที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งระหว่างนั้นมีอุปสรรคจากฝนที่ตก และสภาพเส้นทางที่เข้าไปอย่างลำบาก โดยสถานที่เกิดเหตุเป็นลานช้างอยู่ในปางช้างอำเภอแม่วาง แต่ต้นตะเคียนสูงกว่า 50 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 5-6 คนล้อม ได้โค่นลงหลังจากที่มีพายุฝนกระหน่ำลงมา ซึ่งต้นตะเคียนนั้นอยู่ภายนอกเขตของปางช้าง แต่จากลำต้นที่สูงมาก จึงได้ฟาดลงมายังลานโล่งที่มีช้างผูกไว้ ซึ่งช้างไม่ได้ผูกใต้ต้นไม้หรือใกล้ กับต้นตะเคียนดังกล่าว
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ต้นตะเคียนได้ล้มเข้ามาฟาดใส่ช้าง ที่อยู่บริเวณนี้มีทั้งหมด 6 เชือก ได้ล้มทันที คือ 2 เชือกแม่คำมูลและลูกพลายแบงค์ โดยคาดว่าแม่คำมูลนั้นพยายามเข้ามาช่วยลูก แต่ถูกต้นไม้ฟาดอย่างแรง ส่วนส่วนพ่อช้าง สีดอโจ๊ก หรือปู๊โจ๊ก บาดเจ็บสาหัส กระดูกหน้าผากยุบและหัวไหล่ ขาหัก ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทันที ทีมรักษาได้เข้ารักษาอย่างเต็มที่แล้ว ก่อนที่ปู๊โจ๊กจะสิ้นใจไปเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. โดยปู๊โจ๊กนั้น ถือว่าเป็นพ่อพันธ์ช้างในตำนานที่มีลูกมากกว่า 40 เชือก
ขณะที่ช้างอีกช้างอีก 2 เชือก คือ แม่บุญจันทร์ และพิณทอง มีอาการบาดเจ็บที่ขา ทางมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อมช่วยจัดส่งโรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ส่วนเชือกสุดท้าย แพรวา ไม่พบการบาดเจ็บใดใด แต่จากที่ควาญช้างบอก แพรวาโดนช่วงปลายกิ่งไม้ จึงได้ให้ยาลดปวดไปกิน และเฝ้าระวังอาการอย่างใกล้ชิด
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความเสียใจให้กับทางเจ้าของ และทีมแพทย์ ปกติปางช้างที่นี่มีช้างประมาณ 10 เชือก ที่ผ่านมา มีการดูแลช้างที่เป็นครอบครัวอย่างดี แต่ครั้งนี้เกิดอุบัติเหตุจากภัยธรรมชาติ และถือเป็นการสูญเสียช้างไปถึง 3 เชือก ที่เป็นพ่อแม่ลูก โดยเช้าวันนี้ทางชุมชนจะเข้ามาดูหน้างาน และต้องรอทางราชการเข้ามาดำเนินการ เพราะจุดของต้นคะเคียน ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าชุมชน”สัตวแพทย์หญิงทิตฏยา
นอกจากนี้ ทางเพจสมาคมสหพันธ์ช้างไทย ได้โพลต์แสดงความเสียใจ " สีดอโจ๊ก สู้จนถึงที่สุดแล้วครับ ดูแลกันเองนะ ปู๊โจ๊ก พังคำมูล พลายแบงค์" โดยทีมกู้ภัยช่วยเหลือช้างของสมาคมสหพันธ์ช้างไทย ได้ปฏิบัติภาระกิจแข่งกับเวลาในภาวะบีบคั้นมากเพื่อรักษาชีวิตช้าง โดย มีการสื่อสารกับทีมโรงพยาบาลช้างลำปางและทีมสัตว์แพทย์จาก มช ศูนย์วิจัยช้างและสัตว์ป่าหลายท่านเร่งเข้าเสริมพร้อมยาและเวชภัณฑ์ เช่นเดียวกับอบต แม่วินกำลังช่วยเคลียร์พื้นที่เปิดทางให้รถกู้ภัยช้าง 2 คันเข้าไป เนื่องจากสภาพพื้นที่ยากลำบากมาก โดย ทีมช่วยเหลือช้างแบ่งงานเป็น 2 ส่วนทีมแรกเฝ้ารักษาสีดอโจ๊กที่บาดเจ็บอย่างมากและตัดสินใจให้การรักษาภาคสนาม ไม่เคลื่อนย้ายช้างแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหว และล้มในที่สุด
ส่วนทีมที่สอง สามารถพาช้างที่บาดเจ็บคือ พังพิณทอง บาดเจ็บที่ช่วงขาหน้าและหัวไหล่ และ พังคำจันทร์ ซึ่งเป็นแม่และยายของช้างพังคำมูลและพลายแบงค์ที่ล้ม ขึ้นรถของสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เพื่อเดินทางไปยังโรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ จังหวัดลำปาง