แม่ฮ่องสอน ป่วยโควิดยอดพุ่ง 39 รายแล้ว

แม่ฮ่องสอน ป่วยโควิดยอดพุ่ง 39 รายแล้ว

ยอดผู้ป่วยโรคโควิด ยังพุ่งไม่หยุด วันนี้เพิ่มอีก 2 ราย ล่าสุดยอดสะสมรวม 39 ราย เป็นผู้ป่วยในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง และ อ.ปางมะผ้า ด้านผู้ว่าฯ เข้มการใส่หน้ากาก หากฝ่าฝืนปรับ 2 หมื่นบาททันที หวั่นหากหละหลวมการ์ดตก จะเกิดวิกฤติทันที

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.แม่ฮ่องสอน ประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผย ว่า การระบาดโรคโควิด 19 ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 พบมีผู้ติดเชื้อแล้ว จำนวน 39 ราย กระจายใน 6 อำเภอ ได้แก่ อ.ปาย 16 ราย , อ.แม่สะเรียง 9 ราย , อ.ปางมะผ้า 5 ราย , อ.สบเมย 5 ราย , อ.ขุนยวม 3 ราย และ อ.เมือง 1 ราย

ล่าสุด ตัวเลขวันที่ 1 พ.ค.2564 มีการตรวจหาเชื้อทั้งจังหวัด 106 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย คือรายที่ 38 และ มีผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย คือรายที่ 39 ที่ได้รับการตรวจที่กรุงเทพมหานคร และทราบผลติดเชื้อภายหลังเมื่อเดินทางถึงแม่ฮ่องสอน ผู้ติดเชื้อรายที่ 38 เพศหญิง อายุ 68 ปี อ.แม่สะเรียง เป็นภรรยาของผู้ป่วยรายที่ 37 ที่ตรวจพบก่อนหน้า ไม่มีประวัติการเดินทางออกนอกพื้นที่ แต่เมื่อวันที่ 8-16 เมษายน 2564 บุตรชายเป็นข้าราชการตำรวจ สภ.อ.สันกำแพง เชียงใหม่ เดินทางมาเยี่ยมมารดา และ เป็นผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด ที่โรงพยาบาลสนามเชียงใหม่ ตั้งแต่ 20 เมษายน 2564 แต่ไม่ได้แจ้งให้ทางบ้านทราบ

ส่วนผู้ป่วยรายที่ 39 ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 39 ปี มีภูมิลำเนาใน อ.ปางมะผ้า ประกอบอาชีพที่ต้องเดินทางไปที่ทำงานในกรุงเทพมหานครแลต่างจังหวัดเป็นประจำ ก่อนเดินทางกลับจาก กทม.ผู้ป่วยได้รับการสุ่มตรวจหาเชื้อโรคโควิด 19 ในกลุ่มผู้ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมของกรุงเทพฯ จากนั้นเดินทางกลับโดยรถยนต์ส่วนตัวถึง อ.ปาย ในช่วงดึกของคืนวันที่ 30 เม.ย.2564 และเมื่อถึงปายได้รับแจ้งผลการตรวจว่าติดเชื้อโควิด 19 จึงได้ไปขอรักษาตัวที่โรงพยาบาลปาย

161985773688

นายเอกชัย คำลือ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ในผู้ป่วยทั้ง 39 ราย มีผู้ที่ได้รับการรักษา ครบ 14 วัน และอาการดีขึ้น แพทย์อนุญาตให้กลับไปเฝ้าระวังสังเกตอาการที่บ้าน จำนวน 28 ราย ยังเหลือผู้ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาอาการ จำนวน 11 ราย ที่ รพ.ศรีสังวาล 3 ราย , รพ.ปาย 5 ราย และ รพ.แม่สะเรียง 3 ราย

สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดที่มีการบังคับใช้กฎหมาย ให้สวมหน้ากากอนามัยขณะออกนอกบ้าน หากฝ่าฝืนจะมีความผิดและปรับสูงสุดถึง 20,000 บาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบังคับให้ทุกคนต้องสวมหน้ากาก ขณะออกนอกเคหสถาน จะได้เป็นการป้องกันการระบาด และ ติดเชื้อโรคโควิด 19 ที่แพร่ระบาดอย่างหนักในปัจจุบัน