กทม.ปัดล็อคดาวน์ 'คลองเตย' สกัด 'โควิด' เหตุมี ปชช.จำนวนมาก

วันที่ 3 พ.ค. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ยังมีอย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยวันนี้ (3 พ.ค) มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ตามประกาศของ ศบค. 675 ราย ซึ่งในการระบาดระลอกใหม่วันที่ 1 เม.ย. - 3 พ.ค. กรุงเทพฯ มีผู้ป่วยสะสม 13,958 ราย รวมทั้งยังมีแผนการดำเนินการตรวจคัดกรองโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ บริเวณที่มีการเชื่อมโยงกับผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนคลองเตย ซึ่งลักษณะทั่วไปของชุมชนในเขตคลองเตยที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นชุมชนแออัด มีประชากรอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นที่พักอาศัยมีทั้งที่เป็นอาคารที่พักหลายชั้น และเป็นบ้านเรือนที่ติดๆ กัน มีการใช้พื้นที่บางส่วนร่วมกัน การระบายอากาศไม่ดี ทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายและรวดเร็ว

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากผลการเฝ้าระวังเชิงรุกโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 5 เม.ย. - 2 พ.ค. มีผู้เข้ารับการตรวจ จำนวน 36,095 คน พบผู้ติดเชื้อ จำนวน 1,509 คน (4.18%) และอยู่ระหว่างรอผล จำนวน 18 คน ในส่วนพื้นที่ชุมชนแออัดเขตคลองเตย กทม.ได้ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยนำรถพระราชทานเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยเข้าเก็บตัวอย่างกลุ่มเสี่ยง ในวันที่ 27 เม.ย. เก็บตัวอย่างที่ชุมชน 70 ไร่ จำนวน 436 ราย พบผู้ติดเชื้อ 21 ราย (4.81%) เก็บตัวอย่างที่ชุมชนริมคลองวัดสะพาน จำนวน 489 ราย พบผู้ติดเชื้อ 29 ราย (5.93%) และวันที่ 30 เม.ย. 64 เก็บตัวอย่างที่ชุมชนพัฒนาใหม่จำนวน 411 ราย พบผู้ติดเชื้อ 49 ราย (11.92%) รวมเฝ้าระวังเชิงรุกโควิด-19 ทั้งสิ้น 1,336 ราย พบผู้ติดเชื้อ 99 ราย คิดเป็น 7.41 %

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า สรุปข้อมูลจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 พื้นที่เขตคลองเตย ในการระบาดระลอกใหม่ เดือน เม.ย.จำนวนทั้งสิ้น 304 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีลักษณะที่อยู่อาศัยเป็นแหล่งชุมชนแออัด จำนวน 193 ราย และผู้พักอาศัยในสถานที่อื่น ๆ เช่น คอนโด หอพัก จำนวน 111 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายแรกที่พบในแหล่งชุมชนแออัดในเขตคลองเตย มีอาชีพเป็นพนักงานสถานบันเทิงย่านทองหล่อที่พบผู้ติดเชื้อและมีการแพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง ทั้งนี้ กทม. ได้ดำเนินการจัดตั้งศูนย์พักคอยสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่วัดสะพาน เพื่อแยกผู้ติดเชื้อและดูแลเบื้องต้น ระหว่างรอนำส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาล Hospitel หรือ โรงพยาบาลสนาม ตามระดับความรุนแรงของอาการ และยังได้ดำเนินการส่งต่อผู้ป่วยส่วนหนึ่งไปยังจังหวัดสมุทรสาคร เนื่องจากมีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ และมีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มข้น

"นอกจากนี้ กทม.จะฉีดวัคซีนให้ประชาชนที่อยู่ในชุมชนเขตคลองเตย ซึ่งข้อมูลตามทะเบียนประมาณกว่า 80,000 คน ตั้งแต่วันที่ 4 - 19 พ.ค.ที่บริเวณโรงเรียนวัดคลองเตย และโลตัส พระราม 4 โดยคาดว่าวันแรก (4 พ.ค.) จะสามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณ 1,000 คนเนื่องจากเริ่มฉีดวัคซีนในช่วงบ่าย และวันที่ 5 พ.ค. เป็นต้นไปนั้น จะให้บริการฉีดวัคซีนทั้งในช่วงเช้าและบ่าย คาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนได้ประมาณ 2,500 - 3,000 คนต่อวัน"พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีการเสนอให้ล็อกดาวน์พื้นที่คลองเตยนั้น ยืนยันว่า ไม่สามารถล็อคพื้นที่คลองเตยได้ ไม่เหมือนที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่เป็นแรงงานต่างด้าวอยู่ในที่จำกัดอยู่แล้ว แต่ชุมชนคลองเตยมีคนกว่า 9 หมื่นถึง 1 แสนคน จึงต้องใช้แผนการตรวจคัดกรองและการฉีดวัคซีน เริ่มฉีดวัคซีนที่โรงเรียนคลองเตย และโลตัสพระราม 4 ส่วนกรณีการทำ โรงพยาบาลสนามพื้นที่คลองเตย ต้องใช้ระยะเวลาในก่อสร้างนานกว่าจะเปิดได้ จึงมองว่าจะนำมาที่โรงพยาบาลสนามที่ กทม.จัดเตรียมไว้มีความพร้อมมากกว่าและมีเพียงพอในการรองรับผู้ป่วย เช่นการสร้างห้องน้ำ

"นอกจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชนเขตคลองเตยแล้ว กทม. ยังดำเนินการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่เขตปทุมวัน ที่ชุมชนเคหะบ่อนไก่ และชุมชนพัฒนาบ่อนไก่ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อ 59 ราย โดยมียอดผู้ติดเชื้อสะสมในแขวงลุมพินีและปทุมวัน จำนวน 142 ราย"พล.ต.อ.อัศวิน ระบุ