ป.ป.ช.อุ้ม'ธรรมนัส' คดีความก่อนเป็นรมต.-ส.ส.ไม่เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง
ป.ป.ช.ขอดูคำร้องสอบ'ธรรมนัส' ชี้ คดีความก่อนเป็นรมต.-ส.ส.ไม่เข้าข่ายผิดจริยธรรมร้ายแรง
นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษก ป.ป.ช.กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกล และพรรคเสรีรวมไทย จะยื่นตรวจสอบการทำผิดจริยธรรมร้ายแรงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ กรณีต้องคำพิพากษาศาลออสเตรเลียติดคุกคดียาเสพติด ว่า ต้องขอรอดูคำร้องก่อนว่าจะร้องการผิดจริยธรรมในแง่มุมใด
แต่ก่อนหน้านี้เคยมีผู้ยื่นร้องสอบจริยธรรม ร.อ.ธรรมนัส กรณีต้องคำพิพากษาจำคุกที่ประเทศออสเตรเลียมาแล้ว หากฝ่ายค้านยื่นคำร้องในลักษณะเดียวกันเข้ามาเพิ่ม คงนำไปรวมเป็นสำนวนเดียวกันแล้วรายงานให้ที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่รับทราบว่า จะพิจารณาดำเนินการอย่างไรต่อไป
แต่กรณีการร้องเรียนเรื่องการทำผิดจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น จะต้องเป็นการกระทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่เป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี ถ้าเป็นพฤติการณ์กระทำผิดก่อนหน้ามารับตำแหน่งทางการเมือง จะไม่เข้าข่ายการทำผิดจริยธรรม กรณี ร.อ.ธรรมนัส ถ้าจะร้องเรียนเรื่องเคยติดคุกที่ประเทศออสเตรเลีย แล้วมาเป็นรัฐมนตรี ไม่น่าจะเข้าข่ายทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนมาเป็น ส.ส.หรือรัฐมนตรี ถ้าจะผิดก็เป็นเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งเรื่องการปกปิดลักษณะต้องห้ามไม่ใช่หน้าที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบ แต่เป็นเรื่องของ กกต.
นายนิวัติไชย กล่าวว่า กรณี ร.อ.ธรรมนัส ต้องขอดูคำร้องฝ่ายค้านก่อนว่าร้องเรียนมาในเรื่องใด จึงจะตอบได้ชัดเจนว่าเข้าข่ายผิดจริยธรรมหรือไม่ ส่วนการเทียบเคียงกับคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ ถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดจริยธรรมร้ายแรง กรณีการบุกรุกพื้นที่ป่านั้น กรณี น.ส.ปารีณา ชัดเจนเรื่องการทำผิดจริยธรรม เพราะเป็นการทำผิดระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.แม้จะครอบครองที่ดินมาก่อนเป็น ส.ส.แต่เมื่อหน่วยงานรัฐขอให้ น.ส.ปารีณา คืนพื้นที่ที่บุกรุก แต่ น.ส.ปารีณา ไม่ยอมคืน
ในช่วงนั้น น.ส.ปารีณา มีสถานะเป็น ส.ส.แล้ว จึงเข้าเงื่อนไขผิดจริยธรรม ดังนั้น อย่าเพิ่งนำกรณี ร.อ.ธรรมนัส กับ น.ส.ปารีณา มาเทียบเคียงกัน ต้องขอดูรายละเอียดคำร้องให้ชัดเจนก่อน