อนันดาฯ เปิดใช้เหรียญคริปโทฯ ซื้อคอนโด-บ้าน เพิ่มทางเลือกการชำระเงินแทนเงินสด

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับ บริษัท บิทคับ ออนไลน์ จำกัด ในเครือ บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด พัฒนาช่องทางการชำระเงินการซื้อบ้านและคอนโดทุกโครงการของ อนันดาฯ โดยนำสินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrency (คริปโทฯ) มา เพิ่มทางเลือกในการชำระเงินซื้อขายบ้านและคอนโดมิเนียมของอนันดาฯ ทุกโครงการ ผ่านคริปโทฯ แทนการชำระด้วยเงินสด ผ่านช่องทาง Wallet ของบิทคับมี 4 ขั้นตอนง่ายๆ  ดังนี้

1.เตรียม Bitkub Wallet หรือสมัคร Bitkub Wallet พร้อมยืนยันตัวตน ( KYC ) กรณีที่ยังไม่มี Bitkub Wallet สามารถสมัครสมาชิกใหม่ได้ที่ :https://www.bitkub.com/signup

2.เตรียมเหรียญ คริปโทฯ ที่จะใช้ชำระให้พร้อมใน Wallet  

3.โอนเหรียญเพื่อชำระผ่าน QR CODE ที่เจ้าหน้าที่เตรียมให้เข้า Wallet Ananda

4.รอรับเอกสารยืนยันการชำระเงิน

นายชานนท์  กล่าวว่า  การใช้สกุลเงินดิจิทัลชำระแทนเงินสดนับเป็นอีกก้าวหนึ่งของอสังหาริมทรัพย์ไทยที่เป็นการปรับตัวสู่สังคมแห่งนวัตกรรมและเทคโนโลยี เพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้าที่ซื้อบ้านและคอนโดฯของอนันดาภายใต้แบรนด์  แอชตัน , ไอดีโอ คิว , ไอดีโอ โมบิ , ไอดีโอ , เอลลิโอ , ยูนิโอ , อาร์เทล , แอริ , เอโทล , ยูนิโอทาวน์ และเออร์บานิโอ ทั้งนี้บริษัทจะเปิดรับเงินสกุลคริปโทฯ ที่ได้รับการยอมรับในตลาดโลก 3 สกุล ประกอบด้วย Bitcoin: BTC*, Ethereum: ETH* และ Tether USD: USDT สำหรับใช้ซื้อขายบ้านและคอนโดฯ

นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในวงการสินทรัพย์ดิจิทัลและวงการอสังหาฯของเมืองไทย  หลังจากที่คริปโตฯ เริ่มเป็นกระแสและได้รับการพูดถึงในวงกว้างนับจากที่บิตคอยน์ทำราคาสูงสุดแตะ 1 ล้านบาทเมื่อต้นปีที่ผ่านมา และทำให้มีคนสนใจเข้ามาเก็งกำไรในตลาดซื้อ-ขายเป็นจำนวนมาก

ปัจจุบันตลาดคริปโทฯ ได้รับความสนใจมากขึ้นและมีมูลค่าตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในปีนี้ที่มูลค่าของเหรียญ BITCOIN : BTC ขึ้นไปสูงสุดเกิน 2,000,000 บาทต่อ 1 เหรียญ BTC แสดงให้เห็นว่ารูปแบบการลงทุนในทรัพย์สินของคนยุคดิจิทัลได้เปลี่ยนไปสอดรับกับวิถีชีวิตแบบไร้เงินสด

นอกจากนี้ข้อมูลจากสมาคมการค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ระบุว่า สถานการณ์โควิดระลอก 3 ส่งผลต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มชะลอการฟื้นตัว โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม เนื่องจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่ผู้ประกอบการพยายามกระตุ้นให้เข้ามาซื้อ หรือ โอนกรรมสิทธิ์ทำได้ยากขึ้น เพราะต้องใช้เวลาเดินทางเข้ามาในประเทศ  

ขณะที่อสังหาฯ แนวราบ หรือ บ้านจัดสรร เป็นการชะลอตัวชั่วคราว คาดว่าหลังเหตุการณ์โควิดรอบใหม่นี้คลี่คลาย ลูกค้าจะกลับมาซื้อปกติ เพราะก่อนเกิดโควิดรอบ 3 ตลาดบ้านแนวราบกำลังไปได้ดีมากกว่า 2 ไตรมาสที่ผ่านมา รวมถึงคอนโดที่น่าจะฟื้นตัวจากกำลังซื้อคนไทยในประเทศ