กรมควบคุมโรค ย้ำวัคซีนโควิด 19 ฉีดล้านโดส ไม่มีเสียชีวิต
กรมควบคุมโรค ย้ำขอให้มารับวัคซีนโควิด-19 ไม่ต้องกลัวผลข้างเคียง ชี้ฉีดไป 1 ล้านโดสไม่มีใครเสียชีวิต แต่ติดโควิดตายไปแล้วหลายคน ส่วน 7 กลุ่มเสี่ยง ที่ต้องรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แนะฉีดห่างจากวัคซีนโควิด 1 เดือน
วันนี้ (15 พ.ค. 64) พญ.สุชาดา เจียมศิริ รองผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวผ่าน Facebook live ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในหัวข้อ "วัคซีนไข้หวัดใหญ่ดียังไง? ใครกันนะที่ต้องฉีด ถ้าฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยได้รึเปล่า" โดยระบุว่าในช่วงนี้ สปสช. ได้เริ่มฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีให้แก่ 7 กลุ่มเสี่ยง เช่น บุคลากรทางการแพทย์ หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็กอายุ 6 เดือน -2 ปี มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป โรคอ้วน เป็นต้น ซึ่งจะคาบเกี่ยวกับการที่รัฐบาลเร่งฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในช่วงนี้ด้วย
พญ.สุชาดา กล่าวว่า ข้อแนะนำในการรับวัคซีนทั้ง 2 ชนิดนี้ จริงๆแล้วฉีดอะไรก่อนก็ได้ แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ระบาดควรฉีดวัคซีนโควิดก่อน เพราะวัคซีนโควิดต้องฉีด 2 เข็ม เมื่อรับเข็มแรกแล้วระหว่างรอฉีดเข็มที่สองก็สามารถฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ แต่ถ้ายังไม่ถึงคิวนัดฉีดวัคซีนโควิด ก็สามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก่อนก็ได้เช่นกัน
"ถ้าฉีดวัคซีน 2 ชนิด ระยะห่างดีที่สุดคือ 1 เดือน เช่น รับวัคซีนโควิดเข็มแรกแล้ว อีก 1 เดือนค่อยไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ แล้วจากนั้นค่อยไปรับวัคซีนโควิดเข็มที่สอง ซึ่งในส่วนของวัคซีนโควิดแต่ละยี่ห้อก็จะเว้นระยะต่างกันออกไปอีก อย่างเช่น ชิโนแวค แนะนำระยะห่างเข็มแรกและเข็มที่สอง 3-4 สัปดาห์ แต่ถ้าเป็นแอสตร้าเซนเนก้าที่จะฉีดในกลุ่มเสี่ยงไข้หวัดใหญ่ด้วยจะเว้นนาน 3 เดือน ดังนั้นรับเข็มแรกแล้ว จากนั้น 1 เดือนก็ไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้" พญ.สุชาดา กล่าว
พญ.สุชาดา กล่าวอีกว่า วัคซีนไม่ว่าจะสำหรับโรคใดก็ตาม เมื่อฉีดแล้วต้องอยู่ในโรงพยาบาลรอดูผลข้างเคียงอย่างน้อย 30 นาที และวัคซีนทุกชนิดมีโอกาสที่จะมีคนมีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงหลังฉีดวัคซีนได้ทั้งหมด ไม่จำกัดแค่วัคซีนโควิดอย่างเดียว รวมทั้งมีโอกาสอาจมีปฏิกิริยาที่สัมพันธ์กับความเครียดจากการฉีดวัคซีน (ISRR) ได้หมด ซึ่งในส่วนของวัคซีนโควิดก็มีหลายคนที่ฉีดแล้วเกิดอาการ ISRR แต่สุดท้ายก็กลับมาปกติหมด ดังนั้นหากฉีดวัคซีนแล้วมีอาการผิดปกติ ต้องดูว่าเกิดจากสาเหตุใดกันแน่ ไม่จำเป็นต้องมาจากอาการไม่พึงประสงค์แต่เพียงอย่างเดียว
"หากฉีดเข็มแรกแล้วมีอาการ ISRR และผู้รับวัคซีนกังวลที่จะฉีดเข็มที่สอง จะเปลี่ยนไปฉีดอีกยี่ห้อก็ได้ แต่ตอนนี้เรายังไม่มีข้อมูลว่าการเปลี่ยนยี่ห้อในเข็มที่สองจะสร้างภูมิคุ้มกันได้ดีมากน้อยแค่ไหน แต่ถ้ามั่นใจว่าเป็น ISRR จะใช้วัคซีนเดิมก็ได้เพราะเป็นผลจากจิตใจ" พญ.สุชาดา กล่าว
ขณะที่อาการไม่พึงประสงค์รุนแรงหลังฉีดวัคซีนหรือแพ้วัคซีน เช่น หอบหืด ผื่นขึ้น หน้าบวม เป็นผื่นเฉพาะที่ หมดสติ ช็อค อาการเหล่านี้สามารถรักษาได้และไม่มีผลในระยะยาว และโอกาสเกิดการแพ้รุนแรงมีน้อยมาก จากการฉีดวัคซีนต่างๆ 1 ล้านโดสจะเจอประมาณ 2-3 กรณีเท่านั้น ส่วนกรณีของวัคซีนโควิดขณะนี้ฉีดไป 1 ล้านโดสแล้ว ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียว ส่วนคนที่แพ้ก็อาการดีขึ้นหมดแล้ว อย่างไรก็ดี หากฉีดเข็มแรกแล้วมีอาการแพ้ ควรต้องปรึกษาแพทย์ในเข็มที่สองว่าจะวางแผนอย่างไร เพราะอาการแพ้มีโอกาสเกิดกับเข็มที่สองเช่นกัน
พญ.สุชาดา กล่าวถึงผู้ที่ที่ไม่มั่นใจในการรับวัคซีนโควิดด้วยว่า วัคซีนที่นำมาฉีดในไทย มีการใช้อย่างกว้างขวางทั่วโลก และในไทยก็ฉีดกันไปหลักล้านโดส ยังไม่พบใครที่มีอาการไม่พึงประสงค์รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต ขณะที่โควิดมีผู้เสียชีวิตแล้วหลายราย ยังไม่รวมที่อยู่ในห้อง ICU อีก ดังนั้นความเสี่ยงของโรคโควิดน่ากลัวกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากอาการไม่พึงประสงค์หลังฉีดวัคซีนมาก
นอกจากนี้ วัคซีนที่นำมาใช้เป็นวัคซีนที่มีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐาน อย่างเช่นวัคซีนแอสตร้าฯส่งไปตรวจสอบคุณภาพถึงยุโรป ดังนั้นขอให้มั่นใจได้ ส่วนเรื่องประสิทธิภาพ อย่างเช่นวัคซีนชิโนแวคที่มีการบอกว่ามีประสิทธิภาพต่ำแค่ 50% จริงๆแล้วตัวเลขเหล่านี้ขึ้นอยู่กับวิธีการทำวิจัย แต่ถ้าเอาทุกยี่ห้อมาเทียบกันแล้ววัดว่าสามารถป้องกันการเสียชีวิต ป้องกันการป่วยรุนแรงได้มากน้อยขนาดไหน ทุกยี่ห้อประสิทธิภาพ 80-90% เหมือนกัน
"ขอให้ท่านรีบมาฉีดวัคซีน ตอนนี้เราต้องรักษาชีวิต ลดอาการป่วยรุนแรงไว้ก่อน ดังนั้น วัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ได้เร็วที่สุด" พญ.สุชาดา กล่าว