แกนนำม็อบราษฎร ร้องยธ.จี้10ข้อดูแลผู้ต้องขังเรือนจำ
แกนนำม็อบราษฎร ร้องยธ.จี้10ข้อดูแลผู้ต้องขังเรือนจำ จี้เอาผิดผู้เกี่ยวข้องปล่อยโควิดลาม
นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข นางสาววรรณวลี ธรรมสัตยา นางสาวณัฏฐิดา มีวังปลา และนายเอกชัย หงษ์กังวาน ตัวแทนกลุ่มราษฎรที่เคยถูกดำเนินคดีในคดีการชุมนุมทางการเมือง ซึ่งเคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนกับว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายวัลลภ นาคบัว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และโฆษกกระทรวงยุติธรรม กรณีให้กระทรวงยุติธรรมเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในเรือนจำต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้น รวมทั้งชี้แจงข้อเท็จจริงและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดในเรือนจำ
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการรกระทรวงยุติธรรม ได้แถลงข่าวว่า สาเหตุการแพร่ระบาดในเรือนจำ มีผู้ต้อง หากลุ่มราษฎรบางคนไม่ให้ความความร่วมมือในการตรวจร่างกายตอนแรกรับในช่วงกักตัว เมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งไม่เป็นความจริง ผู้ต้องหาทุกคนยินดีให้ตรวจร่างกาย เพียงแต่ไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์พยายามมานำตัวไปตรวจในยามวิกาล
ส่วนกรณีที่กรมราชทัณฑ์เคยระบุว่า นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ และนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร นั้น ติดเชื้อจากภายนอกก่อนถูกควบคุมตัวเจ้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และกรมราชทัณฑ์ปฏิเสธว่า นางสาวปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง ไม่ได้ติดเชื้อในเรือนจำนั้น
แกนนำราษฎร ที่มารัองเรียน เปิดเผยว่า ตัวอย่างเหตุการณ์ทั้งหมดที่นำมาชี้แจงทำให้เห็นว่ามีการบิดเบือนข้อมูล และปิดบังข้อเท็จจริงการแพร่ระบาดเชื้อในเรือนจำที่มีมานาน แต่ทางกรมราชทัณฑ์และกระทรวงยุติธรรมกลับไม่นำเสนอข้อเท็จจริงเพื่อให้ผู้ต้องขังระวังตัว จนเกิดการระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ จากประสบการณ์ที่เคยถูกคุมขัง และรับทราบข้อมูลจากผู้ต้องขังในคดีการเมืองด้วยกัน
พบว่าในเรือนจำสภาพแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยต่อการรักษาผู้ป่วย เนื่องจากยังมีความแออัด รวมทั้งสิ่งของอุปกรณ์จำเป็นในเรือนจำก็ไม่เพียงพอให้กับผู้ต้องขัง เช่น หน้ากากอนามัยที่ต้องใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก
จึงมาชี้แจงความเป็นจริง เพื่อแก้ปัญหา จากประสบการณ์ที่เคยทำคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยมีข้อเสนอแนะ 10 ข้อ ดังนี้คือ
1.อยากให้กระทรวงที่ทำและกรมราชทัณฑ์ยอมรับความจริง และเปิดเผยข้อมูลการแพร่ระบาดอย่างตรงไปตรงมา หากไม่มีข่าวว่ามีแกนนำกบุ่มราษฎรติดเชื้อ สาธารณชนก็จะไม่มีวันทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในเรือนจำ
2.การคาดโทษเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่ไม่สามารถควบคุมการแพทยระบาดในเรือนจำได้นั้นถือว่าไม่มีความเป็นธรรม เพราะเจ้าหน้าที่ต่างทำงานดีกว่าอย่าลำบากและเสี่ยงต่อการติดเชื้อ จึงควรได้รับเยี้ยเบี้ยงค่าตอบแทนให้คุ้มค่ากับการปฎิบัติหน้าที่
3.ควรจ่ายเงินชดเชยเยียวยาผู้ติดเชื้อในเรือนจำ โดยคำนวณตามอัตราประกันภัยทั่วไปจากการโควิด-19 เพราะมาจากความบกพร่องและได้ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคของหน่วยงานรัฐ
4.ให้เปิดเผยความจริงและรายละเอียดการแพทยระบาดในเรือนจำให้ญาติผู้ต้องขัง และสาธารณชนรับทราบ รวมทั้งจัดให้มีการอำนวยความสะดวกเพิ่มข่องทางเยี่ยมญาติทางออนไลน์ให้มากขึ้น
5.จัดหาวัคซีนให้กับเจ้าหน้าที่และนักโทษโดยเร็ว
6.ประสานงานให้ศาลอยู่ทำให้ประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาทุกรายแผนการสั่งคุมขัง หลีกเลี่ยงการขอฝากขังของพนักงานสอบสวน
7.จัดสวัสดิการพื้นฐานสำหรับผู้ถูกกักกันโรค เช่นการแจกหน้ากากอนามัยเจลล้างมือให้เพียงพอ และปรับปรุงคุณภาพอาหาร รวมทั้งจัดผ้าอนามัยให้กับผู้ต้องขังหญิงที่ถูกกักกันโรคที่ยังขาดแคลน
8.กรณีผู้ต้องขังที่ติดเชื้อที่รักษาอยู่ในห้องขังให้ส่งตัวไปรักษายังสถานพยาบาลอื่นเพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
9.จัดการสาธารณูปโภคให้เพียงพอเช่น ไฟฟ้า น้ำประปา และผ้าห่ม
10.จัดยารักษาให้เพียงพอกับผู้ป่วยในเรือนจำ รวมทั้งอำนวยความสะดวกการปล่อยตัวนักโทษที่ติดเชื้อและติดตามผลหลังการปล่อยตัวไป
ด้าน เลขานุการรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพยายามแก้ปัญหาปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งการเร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาด และปัญหาความแออัดในเรือนจำ ซึ่งก็ยอมรับในข้อบกพร่องที่มี การแก้ปัญหาต้องใช้เวลา และที่สำคัญคืองบประมาณการสนับสนุน ซึ่งจะนำข้อเรียกร้องดังกล่าวไปเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป