ผ่าพิสูจน์แล้ว ผญบ.แพร่ เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน
ศพ ผญบ.ฉีดวัคซีนโควิดได้ไม่ถึง 48 ชม.เสียชีวิต ส่งกลับให้ญาติ หลังส่งผ่าพิสูจน์ รพ.รามาฯ แล้ว กำนันห้วยม้า เมืองแพร่ บอกฉีดพร้อมกัน-กลับพร้อมกัน ไปส่งถึงบ้าน ด้าน สสจ.มั่นใจไม่กระทบแผนฉีดวัคซีน
นพ.ขจร วินัยพานิช นายแพทย์สาธารณสุข จ.แพร่ พร้อมด้วย นพ.ดนัย ภัทรเธียรสกุล ผอ.รพ.แพร่ ได้ชี้แจงข้อมูลกรณีมีผู้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุและมีประวัติที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ระหว่างร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ต่อสื่อมวลชนเย็นวานนี้ (19 พ.ค. 64)
ความคืบหน้ากรณี นายอุดร เย็นจิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.ห้วยม้า อ.เมืองแพร่ เสียชีวิตหลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ไม่ถึง 28 ชั่วโมง ซึ่งนอกจากจะทำให้ญาติพี่น้อง เพื่อนบ้าน ตลอดจนคนรู้จักเศร้าสลดกันทั่วแล้ว ยังทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างวิตกกังวล ไม่กล้าตัดสินใจลงทะเบียนฉีดวัคซีน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเวลา 22.00 น. วันที่ 18 พ.ค. 64 ผู้เสียชีวิตเข้านอนตามปกติไม่มีอาการอะไร จากนั้นเวลา 22.40 น. ญาติได้ยินเสียงร้องลักษณะคล้ายสำลัก จึงเข้าไปดูพบว่ามีอาการชักเกร็ง ลิ้นจุกปาก หายใจติดขัด เรียกไม่รู้สึกตัว ญาติจึงเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยนำส่ง รพ.แพร่ ซึ่งทีมแพทย์ได้ทำการกู้ชีพ แต่พบว่าผู้ป่วยไม่หายใจ จึงได้ใส่เครื่องช่วยหายใจและทำการ CPR แต่ก็ไม่มีสัญญาณชีพ และเสียชีวิตลงในที่สุด
ล่าสุด เมื่อ 23.00 น.เศษที่ผ่านมา (20 พ.ค. 64) คณะแพทย์โรงพยาบาลแพร่ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่ได้นำร่างของผู้ใหญ่อุดรที่ส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กทม. ส่งกลับมาถึงจังหวัดแพร่แล้ว ซึ่งญาติและนายมนู มหิงสา กำนันตำบลห้วยม้า จะไปรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลในวันนี้ (21 พ.ค. 64)
ขณะที่ผลการชันสูตรซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการนำเสนอให้คณะกรรมการผู้เชียวชาญพิจารณาถึงสาเหตุการเสียชีวิตว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเชื่อมโยงกับการได้รับวัคซีนหรือไม่ ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดแพร่จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
นายมนู มหิงสา กำนันตำบลห้วยม้า กล่าวว่า เมื่อ 17 พ.ค.ตนเดินทางไปฉีดวัคซีนพร้อมกับผู้ใหญ่อุดร ไปรถคันเดียวกันขากลับก็มาส่งถึงบ้าน ซึ่งตามหลักแพทย์ที่ดูแลการฉีดวัคซีน ระบุให้พักผ่อนราว 2 วันก่อนจะไปทำงานหนัก แต่หลังจากฉีดวัคซีนได้เพียงวันเดียวผู้ใหญ่อุดรที่เป็นคนขยัน ได้นำรถแทรกเตอร์ออกไปช่วยชาวบ้านปรับดินตลอดทั้งวัน พอเข้านอนตกกลางคืนเกิดอาการป่วยฉุกเฉิน ได้นำส่งโรงพยาบาลแต่ก็ช่วยไว้ไม่ทัน
“ความจริงแล้วผู้ใหญ่อุดรมีโรคประจำตัวคือโรคไทรอยด์ ที่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อยู่แล้ว แต่ไม่อยู่ในโรคที่ห้ามฉีดวัคซีน คิดว่าการเสียชีวิตเกิดจากโรคประจำตัว แต่วัคซีนก็อาจมีส่วน เพราะหลังฉีดผู้ใหญ่ไม่พักผ่อนอย่างเพียงพอจึงเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตก็เป็นได้”
อย่างไรก็ตาม แม้กระแสข่าวผู้ใหญ่อุดรเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนได้เพียง 48 ชั่วโมง จะมีการกล่าวถึงวัคซีนกันอย่างกว้างขวางทั้งจังหวัด และมีคนบางส่วนไม่กล้าที่จะมาฉีดวัคซีน แต่สถิติของการลงทะเบียนรับการฉีดวัคซีนของจังหวัดแพร่ก็ยังดำเนินไปได้อย่างน่าพอใจ
เภสัชกร เด่น ปัญญานันท์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่ากรณีที่เกิดขึ้นทางโรงพยาบาลและสาธารณสุขจังหวัดแพร่ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงได้ส่งผู้เสียชีวิตไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี กทม. เพื่อความชัดเจน ซึ่งผลก็ออกมาแล้ว
ส่วนการฉีดวัคซีนยังคงเดินหน้าต่อไป มีผู้ให้ความสนใจฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ ซึ่งทาง สสจ.ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัวใน 7 โรค ในเดือนมิถุนายนนี้ 100,000 ราย ขณะนี้มีลงทะเบียนไว้แล้ว 70,000 ราย
ขณะที่สถานการณ์ของการระบาด ณ วันที่ 21 พ.ค. จังหวัดแพร่ไม่มีผู้ติดเชื้อติดต่อกันเป็นวันที่ 6 แล้ว