สสจ.สงขลาสั่งห้ามฉีดแอสตร้า 1 ขวด 13 โดสเด็ดขาด
สสจ.สงขลาสั่งห้ามฉีดแอสตร้า 1 ขวด 13 โดสเด็ดขาด
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแจงกรณีมีกระแสดราม่าเรื่องการแบ่งวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซเนก้าฉีด 13 โดสของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลานั้น ยืนยันว่าไม่มีนโยบายให้บุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่สงขลาแบ่งวัคซีนแอสตร้าเซเนก้ามากกว่า 10 โดส พร้อมลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ดังกล่าว ย้ำยังเป็นเพียงการทดลองเพราะความหวังเพียงให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุดเท่านั้นยังไม่ได้ฉีดให้กับประชาชนแต่อย่างใด
10 มิถุนายน 2564 จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสื่อสังคมออนไลน์ที่มีการแชร์ รูปภาพ การใช้เข็มฉีดยาอินซูลินแบบถอดปลายเข็มไม่ได้ ใช้ดูดวัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) ให้ได้ 13 โดส ต่อ 1 ขวด นั้น
ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย.) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา นายแพทย์อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา ได้มีการชี้แจงถึงที่มาที่ไปของกรณีดังกล่าวว่า "มีคุณหมท่านหนึ่งท่านได้สาธิตกรณีดังกล่าวโดยการใช้น้ำเปล่าลองทำดูก็คิดว่าสามารถทำได้ ต่อมาได้มีการประชุมระดับจังหวัดและได้มีการนำประเด็นนี้มาพูดคุยและหารือกัน ซึ่งโดยหลักวิชาการแล้ว ในการทำโดยการใช้วัคซีนซึ่งประมาณ 6.5 ซีซีต่อ 1 ขวด เราคิดว่าไม่สามารถจะทำได้ ซึ่งอาจจะเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงกับคนไข้ได้และเกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้
เพราะฉะนั้นในที่ประชุมของคณะกรรมการระดับจังหวัดเราก็ยืนยันว่าวัคซีนที่เราส่งไปให้ทุกโรงพยาบาลโดยเฉพาะที่เป็นของแอสตร้าเซเนก้าเราจำคำนวนที่ 10 โดสต่อ 1 ขวดเท่านั้น และเรามีวัคซีนสำรองที่เพียงพอต่อคนจังหวัดสงขลาทั้งหมด แต่ถ้าหากจะฉีดได้เกินกว่านั้นก็ถือว่าเป็นทักษะของแต่ละคนไป
"แต่ในที่ประชุมได้มีมติชัดเจนและสั่งการไปแล้วว่า ห้ามฉีด 13 โดสต่อคนเพราะเป็นปริมาณที่ไม่สภาวิชาชีพยังไม่ยอมรับกัน และจะไม่มีการฉีดวัคซีน 13 โดสต่อ 1 ขวดเด็ดขาดในจังหวัดสงขลา"
ซึ่งหากพิจารณาจากที่มีการทดลองของคุณหมอท่านนั้นเพียงเพื่อมีเจตนาดีต่อประชาชน และหาแนวทาง เทคนิคแล้วจึงทำการทดลองดูยังไม่ได้ทดลองฉีดหรือใช้กับประชาชนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ทางด้านนายแพทย์นครินทร์ ฉินตระกูลประดับ ผู้อํานวยการโรงพยาบาลสทิงพระ และรักษาการผู้อํานวยการโรงพยาบาลสิงหนคร ได้ออกมาชี้แจงในประเด็นดังกล่าวแล้วว่า การดูดวัคซีนจากขวดวัคซีนแอสตราเซเนกา เกิดจากการทดลองของกระผมเอง โดยเห็นว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ทําการดูดวัคซีนโดยใช้เข็มฉีดยาขนาด 1 cc แบบถอดปลายเข็มได้เบอร์ 25 ทําให้ สามารถดูดวัคซีนออกมาได้ทั้งหมด 11 โดส
ถ้าเราทดลองโดยใช้เข็มฉีดยาอินซูลินแบบ ถอดปลายเข็มไม่ได้เบอร์ 27 โดย การทดลองใช้น้ำเติม เข้าไปในขวดวัคซีนเดิมที่ใช้หมดแล้วทั้งขวด โดยผมให้เจ้าหน้าที่ทดลองเติมน้ำเข้าไป 6.5 cc และใช้เข็มฉีดยา อินซูลินแบบถอดปลายเข็มไม่ได้เบอร์ 27 ปรากฏว่า สามารถแบ่งน้ำในขวดได้ทั้งหมด 13 โดส จึงคิดว่าอยากจะให้เจ้าหน้าที่ใช้เข็มอินซูลินแบบนี้ดูดแบ่งวัคซีนแอสตราเซเนกา เพื่อจะได้จํานวนโดสวัคซีนสูงสุด ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนได้รับวัคซีนมากขึ้น
แต่มีเจ้าหน้าที่บางท่านไม่เห็นด้วย เพราะเข็มฉีดยาอินซูลินชนิดนี้มีปลายเข็มยาวแค่ครึ่งนิ้ว เวลาฉีดจะทําให้ไม่ถึงบริเวณชั้นกล้ามเนื้อของต้นแขน แต่กระผมคิดว่าทําได้ ตอนจะฉีดยาโดยเข็มอินซูลินชนิดนี้ก็ขอให้กดปลายเข็มลงไปในชั้นกล้ามเนื้ออีกประมาณครึ่งนิ้ว ก็ทําให้ถึงชั้นกล้ามเนื้อได้
จากเหตุการณ์ที่สามารถแบ่งวัคซีนได้ 13 โดสนี้ กระผมเอง คิดว่า จึงได้นําเสนอความคิดนี้ต่อผู้บริหารระดับจังหวัด แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความเห็นชอบจากผู้บริหารระดับจังหวัดสงขลา จึงไม่ได้ดําเนินการ ต้องขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด.