รัฐบาลย้ำควบคุมเข้ม ภูเก็ต Sandbox และ จ.นำร่อง สั่งผู้ว่าฯ-คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ติดตามใกล้ชิด
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกสำนักนายรัฐมนตรี ตอบคำถามแทน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถึงกระแสการแพร่ระบาดโควิด-19ในพื้นที่ภาคใต้ และจะทบทวนการเปิดพื้นที่นำร่องรับนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต หรือ ภูเก็ต Sandbox 1 กค. หรือไม่ และมีแนวทางการคุมเข้มอย่างไรนั้น
โฆษกรัฐบาล บอกว่า ที่ประชุม ศบค. ได้พูดถึง การแพร่ระบาดโควิด-19 และ เปิดประเทศใน120วันหรือประมาณเดือนตุลาคมนี้ โดยมีการพูดคุยหลักการ และแผนการตกลงร่วมกัน ระหว่างผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ การคำนึงถึงสถานการณ์ในพื้นที่และความพร้อมด้านสาธารณสุข โดยย้ำว่า จะดำเนินการอย่างเคร่งครัด โดยผู้ว่าฯ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ต้องติดตามประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนแนวทางการเปิดพื้นที่นำร่องในจังหวัดอื่นๆ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเป็นผู้เสนอ กับผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่ และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด อย่างใกล้ชิด ก่อนส่งรายละเอียดให้กับ ศบค. เป็นผู้พิจารณา การกำหนด ว่า ส่วนไหนเปิดและใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ อยู่ที่ทุกภาคส่วนในพื้นที่ให้เห็นพ้องต้องการเป็นหลัก
นายอนุชา ยังระบุถึงหลักเกณฑ์การรับนักท่องเที่ยว จะดำเนินการตามาตราฐานไม่ว่าจะเป็นการรับวัคซีนครบถ้วนตามที่มีการรับรองขององค์การอนามัยโลก โดยแต่ละจังหวัด จะมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขเพื่อพิจารณาในรายละเอียดสถานการณ์ในจังหวัดนั้นๆ
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นไม่สอดคล้องกับจำนวนเตียง นายกรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีข้อสั่งการเพิ่มเติมพิจารณาเตรียมเพื่อรองรับผู้ป่วย ตามที่แต่ละจังหวัดจะพิจารณา ให้โรงพยาบาลสนามสามารถรองรับผู้ป่วยในระดับที่สูงขึ้นได้เช่นเดียวกับโรงพยาบาลสนามบุษราคัม โดยรัฐบาลได้เร่งรัดช่วยเหลือหากมีความจำเป็นที่จะต้องช่วยบุคคลากรต่างๆทางการแพทย์เช่นเครื่องช่วยหายใจเครื่องเอกซเรย์ ให้ดำเนินการแจ้งความประสงค์มา โดยนายกรัฐมนตรี พร้อมที่จะพิจารณาให้เป็นการเร่งด่วนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ขณะที่มาตรการรับการเปิดเทอมที่มีการพบการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่จังหวัด หลังจากที่มีการเปิดไม่ว่าจะเป็นจุดใดก็แล้วแต่โดยเฉพาะโรงเรียน หากพบมีปัญหา ก็จะต้องดำเนินการ ให้สอดคล้องหรือปิดชั่วคราว เพื่อที่จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งหนึ่ง สถานที่ใดที่เปิดแล้วไม่มีปัญหาก็สามารถดำเนินการได้ต่อเนื่อง ซึ่งต้องประเมินเป็นรายสถานที่ไปว่าสถานการณ์นั้นเป็นอย่างไร
ขณะที่การตรวจสอบการใช้งบประมาณ ด้านสาธารณสุข นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า หากมีการพบการข้อสงสัยโดยมีหลักฐานสามารถร้องทุกข์กล่าวโทษเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบได้ทุกกรณี ไม่ละเว้น ใครที่รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นส่วนกลางหรือท้องถิ่น หากมีหน่วยงานใดที่เข้าข่ายทำให้เกิดความไม่ชอบมาพากลขอให้ประชาชนร้องเรียนเข้ามาที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 1111