'นครบาล' เตรียมกำลัง 17 กองร้อยรับมือ 'ม็อบ 24 มิ.ย.'
'นครบาล' พร้อมรับมือ 'ม็อบ 24 มิ.ย.' ทำกิจกรรมเริ่มตั้งแต่ตี 5 ก่อนเคลื่อนขบวนไป 'รัฐสภา-ทำเนียบ' เตรียมกำลัง 17 กองร้อย รถน้ำ เน้นรักษาความสงบ ไม่ตั้งเครื่องกีดขวางหากไม่จำเป็น
23 มิ.ย.2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงข่าวการเตรียมความพร้อมการชุมนุมวันที่ 24 มิถุนายน
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ขอชี้แจงแนวทางการปฏิบัติ เนื่องจากมีกลุ่มมวลชนต่างๆ หลายกลุ่ม มีการประกาศเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุม และทำกิจกรรม ในวันที่ 24 มิถุนายนโดยกลุ่มแรก กลุ่มราษฎร กลุ่มวีโว่ และกลุ่มแนวร่วม ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรม แบ่งออกเป็น 3 ห้วงเวลา ซึ่งช่วงแรกเริ่มจากเวลา 05.00 น.-07.00 น. จะมีการจัดกิจกรรมจุดเทียนรำลึกเหตุการณ์ อ่านแถลงการณ์ ที่บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กิจกรรมต่อมา เริ่มในเวลา 10.00 น. โดยจะมีการเคลื่อนขบวนการชุมนุมจากอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ไปยังรัฐสภา ใช้เส้นทางถนนราชดำเนินกลาง ถนนนครสวรรค์ - ถนนพิษณุโลก - ถนนพระราม 6 - ถนนทหาร - แยกเกียกกาย – ที่หมายรัฐสภา เพื่อไปยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่อประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กิจกรรมช่วงที่สาม เริ่มเวลาประมาณ 17.00 น. บริเวณ สกายวอล์ค แยกปทุมวัน เป็นการจัดกิจกรรมร่วมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มประชาชนคนไทย โดย นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา เวลาประมาณ 14.00 น. จะรวมกลุ่มกันที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ จากนั้นจะเคลื่อนมวลชนไปยังบริเวณทำเนียบรัฐบาล ฝั่งศาลกรมหลวงชุมพร ถนนพิษณุโลก และกลุ่มไทยไม่ทนฯ โดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ เวลาประมาณ 16.00 น. นัดหมายรวมตัวที่บริเวณแยกผ่านฟ้า หากมีมวลชนจำนวนมาก จะทำกิจกรรมบริเวณดังกล่าวโดยไม่มีการเคลื่อนขบวน แต่หากมีมวลชนน้อย จะเคลื่อนมวลชนไปบริเวณทำเนียบรัฐบาล ฝั่งโรงเรียนราชวินิต
ทั้งนี้ในส่วนของเส้นทางการเคลื่อนขบวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานกับแกนนำของแต่ละกลุ่ม โดยได้เลือกเส้นทางที่ส่งผลกระทบต่อการจราจรน้อยที่สุด และสามารถดูแลความสงบเรียบร้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับในการเตรียมกำลัง ร้อย คฝ. กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้เตรียมกำลังไว้ จำนวน 17 กองร้อย ไม่ใด้ใช้กองกำลังของตำรวจตระเวนชายแดนแต่ได้เตรียมรถน้ำควบคุมฝูงชน สนับสนุนในพื้นที่ต่างๆ มอบหมายให้ พล.ต.ต.สหรัฐ ศักดิ์ศิลปชัย รอง ผบช.น. เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติในภาพรวม มีความพร้อมในการปฏิบัติ
พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อไปว่าวัตถุประสงค์ในการชี้แจงในวันนี้ เพื่อแจ้งให้ประชาชนรับทราบการจัดการชุมนุม การจัดกิจกรรม ในห้วงเวลาและสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งอาจกระทบต่อการสัญจรไปมา หรือการใช้ชีวิตโดยปกติ ประชาชนจะได้สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีการชุมนุม การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายทราบว่า การชุมนุม การจัดกิจกรรม ต่าง ๆ เหล่านี้ ต้องอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทางกรุงเทพมหานคร ได้มีการออกประกาศ ฉบับที่ 33 ควบคุมการจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ดังนั้น การทำกิจกรรมต่าง ๆ อาจฝ่าฝืนกฎหมาย คำสั่ง หรือประกาศที่เกี่ยวข้องได้
ทั้งนี้การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเน้นการรักษาความสงบเรียบร้อย การปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรค สำหรับการตั้งเครื่องกีดขวาง จะไม่มีการตั้งหากไม่จำเป็น เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชน ยกเว้น การชุมนุมนั้นอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน หรือสถานที่สำคัญ ในพื้นที่สุ่มเสี่ยงก็จะพิจารณาตามพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับการชุมนุม หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ หากพบว่ามีการกระทำผิด จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย ส่วนแกนนำ หรือผู้จัดกิจกรรม ที่อยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราวของศาลโดยมีเงื่อนไข ก็ขอให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลโดยเคร่งครัด หากพบว่าบุคคลใดไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความจำเป็นที่จะต้องทำรายงานเสนอต่อศาล เพื่อให้ศาลได้พิจารณาตามกระบวนการต่อไป
ทั้งนี้จากการตรวจสอบล่าสุด ทั้งการชุมนุมของนายจตุพร และ กลุ่มชุมนุมอื่นๆไม่ได้มีการติดต่อแจ้งการชุมนุมและประสานข้อมูลกับทางตำรวจแต่อย่างใด
ส่วนที่ผ่านมาทางตำรวจได้มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้ชุมนุม 217 คดี สอบสวนเสร็จแล้ว 159 คดี เหลือการสอบสวนอีก 58 คดี และส่งสำนวนอัยการไปแล้วบางส่วน โดยคดีการชุมนุมที่ส่งถึงชั้นศาลแล้ว 19 คดี เป็นคดีความมั่นคง 11 คดี พิพากษาแล้ว 3 คดี
อย่างไรก็ตามทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ยืนยันว่าไม่หนักใจการชุมนุมในวันพรุ่งนี้ ได้เตรียมกำลังไว้ทั้งหมด เป็นกำลังของกองบัญชาการตำรวจนครบาลแต่ละพื้นที่ โดยเน้นยำให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายเพราะยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉิน สำหรับการเคลื่อนกลุ่มชุมนุมขอให้เคลื่อนตามเส้นทางที่แจ้งไว้ ขอให้ไม่ก่อความวุ่นวาย แต่หากมีการใช้ความรุนแรงทำลายทรัพย์สิน หรือเข้าพื้นที่หวงห้าม ทางตำรวจก็มีความจำเป็นในการใช้กำลังเข้าควบคุม ทั้งนี้ตำรวจจะต้องเก็บหลักฐานทั้งหมดเพื่อใช้ในการดำเนินคดีในภายหลัง เบื้องต้นจากการข่าวยังไม่พบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมหัวรุนแรง หรือใช้กำลังเข้าร่วมการชุมนุมด้วย
ด้านพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. กล่าวว่า ในวันที่ 24 มิ.ย. ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่บริเวณรัฐสภา ทำเนียบรัฐบาล อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา และสกายวอร์คแยกปทุมวัน ส่วนเส้นทางที่ควรหลีกเลี่ยง โดยช่วงเวลา 05.00 น. หลีกเลี่ยงถนนราชดำเนินกลาง ถนนตะนาว คาดว่าผู้ชุมนุมใช้เวลากิจกรรมไม่นาน นอกจากนี้จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมทำกิจกรรมและเคลื่อนขบวนเพื่อความสะดวกการเดินทางให้หลีกเลี่ยงถนน 11 เส้นทาง ได้แก่ ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนตะนาว ถนนดินสอ ถนนนครสวรรค์ ถนนลูกหลวง ถนนพิษณุโลก ถนนศรีอยุธยา และถนนพระราม 5 และสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ควรหลีกเลี่ยงตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป ผู้ชุมนุมอาจมีการเปลี่ยนแปลงสอบถามข้อมูลเส้นทางได้ที่ โทร.1197 ตลอด 24 ชม. www.trafficpolice.go.th หรือ ไลน์ POLICE TRAFFIC NEWS