'ไทยไม่ทน' นัด 4 โมงเย็นสะพานผ่านฟ้าฯ 24 มิ.ย. เคลื่อนพลบุกทำเนียบไล่ 'ประยุทธ์' ยังอุบค้างคืนหรือไม่
กลุ่ม "ไทยไม่ทน" นัดชุมนุมใหญ่ 4 โมงเย็นสะพานผ่านฟ้าฯ 24 มิ.ย. เคลื่อนพลบุกทำเนียบไล่ "ประยุทธ์" ยังอุบค้างคืนหรือไม่
วันที่ 23 มิ.ย. ที่ห้องประชุมไทยไม่ทน สถานีพีซทีวี กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น แถลงข่าวจัดการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 24 มิ.ย.เพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ลาออกจากตำแหน่ง
นายจตุพร กล่าวว่า พรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) จะเป็นสมรภูมิที่ใหญ่ขึ้น ตนเคยบอกไว้เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ว่า พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ไม่เกิน 3 เดือน ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นฉบับประชาชน ไม่มีทางสำเร็จในยุคนี้ จึงขอชวนพวกพ้องนักการเมือง ขับไล่พล.อ.ประยุทธ์ให้ออกไปให้ได้ ตลอด 7 ปีเศษพอใจการบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ถ้าพอใจก็นอนอยู่บ้าน แต่ถ้าไม่พอใจให้ออกมาร่วมกัน ซึ่งการปราศรัยจะมีอย่างเป็นระบบ ถึงแม้จะต้องแลกอะไรอีกมากมาย เมื่อเราพยายามทุกวิถีทางแล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง การลงถนนคือมาตรการสุดท้าย ขอเน้นย้ำว่า ยึดมั่นแนวทางสันติวิธีเท่านั้น ด้วย และไม่ได้สนใจว่าใครนายกรัฐมนตรีคนต่อไป แต่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องแก้ไขประเทศได้ ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ออกจากตำแหน่ง โดยประชาชนต้องมีสัญญาประชาคม กำหนดว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปต้องทำอย่างไร เพื่อรีเซ็ทประเทศไทยใหม่ให้ได้
"หลัง 4 โมงเย็นค้างคืนหรือไม่สถานการณ์จะกำหนด ถ้ารัฐไม่ซื่อก็อาจยืดเยื้อ อย่างไรประชาชนยึดสันติวิธีเท่านั้น หน้าที่รัฐบาลคือต้องจัดการไม่ให้มีมือที่สาม คิดว่าแม้มีหลายกลุ่มจัดชุมนุมในวันพรุ่งนี้ ก็ไม่มีปัญหา ด้วยแต่ละกลุ่มมีแนวทาง สถานที่ชัดเจน ของใครของมัน แต่มีเป้าหมายเดียวกัน"นายจตุพร กล่าว
ด้านนายวีระ กล่าวว่า รัฐบาลนี้เข้าสู่อำนาจด้วยคำสัญญาคืนความสุข แต่สิ่งที่ประชาชนได้ คือ คำโกหกหลอกลวง สืบทอดอำนาจ ข้ออ้างในการรัฐประหารที่ว่า เข้ามาแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่น แต่เมื่อเข้าสู่อำนาจ การคอร์รัปชั่นกลับเพิ่มมากขึ้น ในฐานะองค์กรตรวจสอบคอร์รัปชั่นภาคประชาชน คงจะทนต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่ควรออกไป วันพรุ่งนี้(23 มิ.ย.) เวลา 4 โมงเย็นเรามีนัดกันที่สะพานผ่านฟ้าฯ ชวนคนไทยทุกคนที่ไม่ทน เตรียมตัวเคลื่อนไปทำเนียบรัฐบาล
ขณะที่นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวว่า ตนและเครือข่ายฯในฐานะภาคประชาชน เห็นตรงกันว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นอุปสรรคของประเทศ รวบอำนาจผูกขาดเศรษฐกิจ การเมือง เอื้อนายทุนพวกพ้อง อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ดังนั้นจึงมีมติเข้าร่วม กลุ่มไทยไม่ทนฯ รวมพลังทางความคิด ก่อเป็นปรากฏการณ์แม่น้ำร้อยสาย อันเป็นปฐมบทแห่งการขับไล่ประยุทธ์ โดยคาดหวังประเทศไทย เหมือนประเทศเกาหลีใต้ เกิดมาตรฐานคุณธรรม จริยธรรม ภายหลังการต่อสู้ครั้งใหญ่ของประชาชน พร้อมยืนยันเจตนารมย์ยืนยันแก้ไขระบอบประยุทธ์ โดยการเดินทางของแม่น้ำร้อยสาย มีเป้าหมายหลักเดียวคือไล่พล.อ.ประยุทธ์
ด้านนางณัทพัช อัคฮาด แกนนำผู้เสียหายจากเหตุการณ์พฤษภา 2553 กล่าวว่า กลุ่มผู้มีอำนาจในรัฐบาลปัจจุบัน 90% มีส่วนในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ. ที่สลายการชุมนุมปี 2553 ซึ่งเรากลุ่มญาติผู้เสียชีวิตฯได้ต่อสู้มาโดยตลอด 11 ปี มีคดีความมากมาย แต่ปัจจุบันหลายคดีที่เกี่ยวกับการสลายการชุมนุมยกฟ้อง เป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ เราจึงออกมาร่วมต่อสู้ แต่วันที่ 24 มิ.ย.จะเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบรัฐบาลทหาร