กองทุน'ปรับพอร์ต'หุ้น ชูธีม'เปิดเมือง-โตแกร่ง'ฝ่าล็อกดาวน์

นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า  ในช่วงมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ 14 วัน และหากสามารถเห็นจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อลดลงตามลำดับ คาดว่าน่าจะส่งผลดีในทางจิตวิทยาและความน่าเชื่อมั่นกับตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ยังต้องประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด  โดยยังคงเป้าปลายปีนี้ เดิมคาดไว้ที่  1,650 จุด  คาดว่าอัตราการฉีดและกระจายวัคซีนน่าจะเพิ่มขึ้นได้มากในช่วงครึ่งปีหลังนี้ 

อย่างไรก็ตามในช่วงนี้  บลจ.กสิกรไทย ปรับกลยุทธ์ลงทุนในหุ้นไทย เน้นลงทุนคัดเลือกหุ้น ( Selective)  ในหุ้นกลุ่มที่มี คุณภาพของกำไร(Earnings Quality) มีปัจจัยช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวในอนาคต (High Potential for Recovery) และได้ประโยชน์เมื่อมีการกลับมาของภาคเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดโควิด -19 (Reopening Theme ) ที่ราคาปรับลดลงมาในช่วงการระบาดของโควิด-19 ในระลอกสาม 

สำหรับกลุ่มหุ้นน่าสนใจ มี 2 ธีมการลงทุน คือ หุ้นที่มีปัจจัยช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวในอนาคต และได้ประโยชน์เมื่อมีการกลับมาของภาคเศรษฐกิจหลังจากการแพร่ระบาดโควิด -19 ได้แก่ กลุ่มแบงก์พาณิชย์ พลังงาน ปิโตรเคมี โรงแรมและเฮลธ์แคร์  และหุ้นที่การเติบโตในเชิงคุณภาพ ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและเครื่องดื่ม 

พร้อมกันนี้ แนะนำทยอยลงทุนเพิ่มได้ที่ระดับดัชนีต่ำกว่า 1,550 จุด และคาดว่า ในช่วงครึ่งปีหลังตลาดหุ้นน่าจะมีความผันผวนเพิ่มขึ้น จากความกังวลเรื่องเฟด อาจมีการทำลดคิวอีก (QE Tapering) ปรับอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าตลาดคาดการณ์

นายบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ. ทหารไทย จำกัด  หรือ ทีเอ็มบี อีสท์สปริง กล่าวว่า  จากมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ 14 วัน บลจ.ทหารไทย คาดการณ์ตลาดหุ้นไทย น่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงปลายไตรมาส 4 ปี 2564 หรือช่วงต้นไตรมาส 1 ปี 2565  ขึ้นอยู่กับการควบคุมยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันให้มีจำนวนลดลงและการกระจายวัคซีนที่ดีขึ้น เพราะที่อัตราการฉีดวัคซีนปัจจุบันเฉลี่ย1.5แสนโดสต่อวัน หรือภายในสิ้นปีนี้น่าจะได้เพียง 50% ของประชากรไทย 

สำหรับในด้านตลาดการลงทุน เชื่อยังเดินหน้าต่อไปได้ เพราะแม้การแพร่ระบาดของโควิด -19 รุนแรงขึ้นกว่าปีก่อน แต่ความแพนิกของนักลงทุนน้อยกว่าปีก่อน รวมถึงปีนี้วัคซีนมีแล้ว แม้มีประสิทธิภาพลดลงบ้างกับการรับมือเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ ยังเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตามสถานการณ์

ดังนั้การลงทุนในหุ้น บลจ.ทหารไทย เน้นกลยุทธ์กระจายการลงทุนไปต่างประเทศ หรือ เลือกเฉพาะกลุ่มที่อิงการฟื้นตัวเศรฐษกิจโลก เช่น กลุ่มแพคเกจจิ้ง ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ พลังงานและปิโตรเคมี 

ในส่วนของพอร์ตลงทุนของลูกค้า ปัจจุบันพบว่าจะลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี หุ้นจีน หุ้นโลก กันค่อนข้างมากแล้ว แนะนำว่า ช่วงเวลานี้ควรมีหุ้นกลุ่มเปิดเมือง โดยเน้นคัดเลือกหุ้นคุณภาพและเติบโตสูง เช่น หุุ้นนาดใหญ่ของสหรัฐที่แนวโน้มเติบโตดีเพิ่มเข้าพอร์ต จะช่วยลดความเสี่ยงและเป็นโอกาสเพิ่มผลตอบแทนสูงขึ้นได้เมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นหลังโควิด-19