'พล.ต.อ.วิระชัย' เปิดใจ ไม่ผูกใจเจ็บใคร ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
'พล.ต.อ.วิระชัย'รายงานตัววันแรก ถือฤกษ์ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยันไม่เคยโกรธ ผูกใจเจ็บใคร พร้อมปฎิบัติหน้าที่ตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา และให้ดีที่สุดไม่ให้ประชาชนผิดหวัง
ๅ16 ก.ค.2564 หลังจากที่ ศาลปกครองกลาง มีคำสั่งทุเลาการบังคับคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งให้พลตํารวจเอก วิระชัย ทรงเมตตา สำรองราชการ และประกาศของนายกรัฐมนตรี ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2563 ที่ให้พลตำรวจเอกวิระชัย พ้นจากตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไว้เป็นการชั่วคราว จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น
โดย ผลของคำสั่งศาลปกครองกลาง ทำให้พลตํารวจเอกวิระชัย จะกลับมาดำรงตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือเทียบเท่า นับตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคม 2563 ซึ่งเป็นวันที่พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น ออกคำสั่งสำรองราชการ พลตำรวจเอกวิระชัย
โดยเมื่อเวลา 09.45 น. พลตำรวจเอกวิระชัย ได้เดินทางเข้ามาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตามเดิม โดยเมื่อมาถึงได้วางพานพุ่มดอกไม้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 และสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนเข้าลงบันทึกประจำ ที่สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เพื่อกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง
พลตำรวจเอกวิระชัย ระบุว่า ตามที่ศาลปกครองได้มีคำสั่งทุเลาคำสั่งสำรองราชการและมีคำสั่งทุเลาประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้ตนพ้นจากตำแหน่ง รอง ผบ.ตร. ไว้จนกว่าจะมีคำพิพากษาเป็นอื่น ส่งผลให้เสมือนว่าไม่มีคำสั่งสำรองราชการและไม่มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ให้ตนพ้นจากตำแหน่ง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาก่อน จึงเป็นผลให้ตนยังคงดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 จนถึงปัจจุบัน อยู่โดยไม่ขาดตอน วันนี้มาลงบันทึก ประจำ ที่สำนักงานเลขานุการตำรวจแห่งชาติ เพื่อเป็นหลักฐานในการกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป
พลตำรวจเอกวิระชัย ยอมรับว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาทำหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง ส่วนขั้นตอนตามกฎหมายว่าจะต้อง มาปฏิบัติหน้าที่ โดยรับผิดชอบ เรื่องใดบ้าง เป็นหน้าที่ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จะต้อง อธิบาย เพราะปัจจุบัน มีรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติครบทุกตำแหน่งแล้ว
“ทั้งนี้เรื่องส่วนตัวที่ผ่านมาไม่ขอพูดถึง เพราะตั้งใจจะทำหน้าที่ คิดแต่เพียงว่าเวลาที่เหลืออีก 10 กว่าเดือน ทำงานในหน้าที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ดีที่สุด เพื่อพี่น้องประชาชน และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับ อดีตผู้บัญชาการ ยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่ผูกใจเจ็บ ไม่เคยโกรธใคร ” พลตำรวจเอกวิระชัย กล่าว
สำหรับกรณีนี้ สืบเนื่องจาก พลตำรวจเอกวิระชัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในตำแหน่ง สำรองราชการ ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง และถูกร้องทุกข์ดำเนินคดี กรณีถูกกล่าวหา ดักฟัง เผยแพร่ข้อมูลการสนทนา ระหว่าง พลตำรวจเอกวิระชัย กับ พลตำรวจ เอกจักรทิพย์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในขณะนั้น ตั้งแต่ต้นปี 2563 จากกรณีผู้ก่อเหตุยิงรถ พลตำรวจโท สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษา (สบ.9) และต่อมา พลตำรวจเอก วิระชัย ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อให้เพิกถอนคำสั่งสำรองราชการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี