เตรียมเฮ! ศธ.จัดแผน'ลดค่าใช้จ่าย'ผู้ปกครอง คาดแล้วเสร็จเสนอครม.27 ก.ค.นี้
'ศธ.'เตรียมจัดทำแผนมาตรการ 'ลดค่าใช้จ่าย' ผู้ปกครอง นักเรียน ครู และสถานศึกษา ระบุ มีหลายหลายแพ็กเกจ คาดเสนอ รมว.ศธ. และสภาพัฒน์ พิจารณาก่อนเสนอ ครม.วันที่ 27 ก.ค.นี้ ย้ำ เด็กอาจต้องเรียนออนไลน์ในภาคเรียนที่ 2
ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เห็นชอบในหลักการแนวทางลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ของนักเรียนและนักศึกษา ในปีการศึกษา 2564 ตามที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้จัดทำมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในสถานการณ์โควิด-19
จะครอบคลุมทั้งโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) โรงเรียนสังกัด กทม.และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
วันนี้ (22 ก.ค.2564 ) ดร.สุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเขียนโครงการมาตรการช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการเรียนรู้ เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของนักเรียน ครู และผู้ปกครองในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 เพื่อเสนอให้ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศธ. และสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา ก่อนนำสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบวันที่ 27 ก.ค.นี้
- ย้ำมาตรการ'ลดค่าใช้จ่าย'ช่วยผู้ปกครองได้จริง
โดย มาตรการช่วยเหลือ ต่างๆยืนยันว่าจะเป็นการลดภาระ 'ลดค่าใช้จ่าย' ให้แก่นักเรียน ผู้ปกรอง ครู และสถานศึกษาอย่างแน่นอน แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดมาตรการที่ชัดเจนได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดทำแผนงาน เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของมาตรการมากที่สุด
ปลัดศธ. กล่าวต่อว่า ขณะนี้เพิ่งหารือร่วมกับผู้แทนโรงเรียนเอกชนทุกประเภทและสมาคมการศึกษาโรงเรียนเอกชน ซึ่งมีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะประเด็นค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าเทอม ซึ่งส่วนหนึ่งยอมรับว่าเห็นใจโรงเรียนเอกชนที่ผู้ปกครองยังค้างเทอมอยู่จำนวนมาก อัตราการจ่ายค่าเทอมของผู้ปกครองอยู่ที่ 30% เท่านั้น
- เห็นใจรร.เอกชน ผู้ปกครองค้าง 'ค่าเทอม'จำนวนมาก
ขณะที่ โรงเรียนเอกชน ยังต้องแบกค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าจ้างเงินเดือนครู และครูต่างชาติที่เดินทางกลับมาสอนในประเทศไทย และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการกักตัวหรือ State Quarantine ด้วย ดังนั้นจะต้องวางแผนแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
สำหรับสถานการณ์การ เปิดภาคเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนที่โรงเรียนตามปกตินั้น ศธ.ยังตอบไม่ได้ว่าการเปิดเรียนให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนอย่างเป็นทางการจะเป็นเมื่อไหร่ เพราะมาตรการทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่เป็นผู้พิจารณา ซึ่งก็เป็นไปได้ว่านักเรียนอาจจะต้องเรียนออนไลน์ทั้งภาคเรียนที่ 1 และภาคเรียนที่ 2 ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือรัฐบาลจะต้องระดมการ ฉีดวัคซีน ให้ประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง