'บีทีเอส' ชี้รายได้งานโยธารถไฟฟ้าสีชมพู - เหลือง หนุนรายได้ 4 หมื่นล้าน
"บีทีเอส"รับโควิด-19 ฉุดภาพรวมรายได้ปีนี้หล่นเล็กน้อยหลังรับรู้รายได้จ้างงานโยธารถไฟฟ้าสายสีชมพู – เหลือง รวมกว่า 4 หมื่นล้านบาท รับเลื่อนเปิดให้บริการจากการปิดแคมป์ก่อสร้าง
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS เปิดเผยว่า จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ ส่งผลให้ผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส ลดลงเหลือราว 170,000-180,000 เที่ยวคนต่อวัน หรือลดลงประมาณ 80% เมื่อเทียบกับการให้บริการช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยที่ระดับ 800,000 เที่ยวคนต่อวัน
อย่างไรก็ดี จากการประเมินผลกระทบจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง อาจส่งผลต่อภาพรวมรายได้ของบีทีเอส กรุ๊ป ตามปีงบประมาณ 2564/2565 (เม.ย. 2564 - มี.ค. 2565) ปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากยังมีรายได้จากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู และสายสีเหลืองเข้ามาชดเชย ซึ่งเป็นค่าสนับสนุนงานก่อสร้างโยธาจากภาครัฐราว 40,000 ล้านบาท ที่จะเริ่มทยอยรับรู้เป็นรายได้ตั้งแต่ปี 2565 จนกว่าจะก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ ขณะที่ภาพรวมรายได้ของ บีทีเอส กรุ๊ป ในปีงบประมาณ 2563/2564 อยู่ที่ 42,379 ล้านบาท
“ต้องยอมรับว่าโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของบีทีเอส กรุ๊ป เพราะกระทบทั้งธุรกิจในเครืออย่าง บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ทำธุรกิจโรงแรม และอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจโฆษณาก็ได้ผลกระทบเช่นกัน แต่จะภาพรวมจะออกมากระทบเล็กน้อย เพราะยังมีการรับรู้รายได้จากงานโยธารถไฟฟ้าสายสีชมพู - เหลือง”
นายสุรพงษ์กล่าวด้วยว่า จากการประเมินสถานการณ์ในขณะนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว - สำโรง ต้องเลื่อนเปิดให้บริการเดินออกไปจากเดิม โดยสายสีชมพู เดิมจะทยอยเปิดให้บริการเดินรถบางช่วงในเดือน มี.ค.2565 ต้องเลื่อนออกไปเปิดให้บริการประมาณกลางปี 2565
ขณะที่สายสีเหลืองเดิมจะเปิดให้บริการบางช่วงในเดือน ธ.ค.นี้ อาจจะเลื่อนออกไปเปิดในเดือน มี.ค. 2565 เนื่องจากปัจจุบันงานก่อสร้างยังไม่สามารถดำเนินการได้ ด้วยมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แม้ว่าในภาพรวมงานโยธาจะคืบหน้าไปกว่า 80%