KTBST เลื่อนขายไอพีโอ เหตุฐานะการเงินแกร่ง-รายได้โต

KTBST เลื่อนแผนขายหุ้นไอพีโอ คาด1-2 ปีนี้ ไม่มีแผนเข้าจดทะเบียน เหตุ ไม่มีความต้องการใช้เงิน-บริษัทย่อย "บล.เคทีบีเอส-บลจ.วี" มีกำไรโตต่อเนื่อง "วิน" มั่นใจผลดำเนินงานปี 64 สูงกว่าปีก่อน

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้เลื่อนแผนการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ออกไป จากเดิมที่คาดว่าจะเป็นปีนี้ และคาดว่าอีก 1-2 ปีจากนี้ ยังไม่มีแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เนื่องจากบริษัทไม่มีความต้องการใช้เงินทุนจำนวนมาก และบริษัทย่อยก็มีผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2559-2563)

ทั้งนี้ในปี 2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท เติบโตเท่าตัวจากปี 2562 ที่มีกำไร 44 ล้านบาท โดยหลักมาจากปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นส่งผลบวกต่อรายได้ของบริษัทย่อย คือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) วี จำกัด เพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้นักลงทุนหันมาหาผลตอบแทนในตลาดทุนมากขึ้น และส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายสูงขึ้นผิดปกติ

"1-2ปี จากนี้บริษัทยังไม่มีแผนขายไอพีโอ เพราะยังไม่ต้องการเงินทุนจำนวนมาก จากยังไม่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่ จากการแพร่ระบาดของโควิดยังมีความไม่แน่นอนสูงและต้องจับตาสภาพคล่องในตลาดการเงิน เพราะธนาคารกลางต่างๆดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงิน"

นายวิน กล่าวว่า เป้าหมายผลการดำเนินงานในปี 2564 คาดว่าจะเติบโตได้ต่อเนื่องจากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1.6 พันล้านบาท ตามปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น แม้จะเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 แต่บริษัทมีความพร้อมให้บริการลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการลงทุนต่อเนื่องในระบบงานไอทีตั้งแต่ปีก่อนเกิดโควิด-19 (ปี 2562)

ทั้งนี้งบลงทุนด้านไอทีในช่วงที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับประมาณ 100 ล้านบาท โดยทยอยลงทุนปีละประมาณ 10 ล้านบาท ต่อเนื่องในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

สำหรับปัจจุบันสัดส่วนลูกค้าของบริษัทที่ซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านช่องทางออนไลน์อยู่ที่ 60-70% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ารายย่อย ส่วนอีก 30-40% ที่เหลือเป็นลูกค้าสถาบันที่ยังมีความจำเป็นต้องส่งคำสั่งซื้อขายกับมาร์เก็ตติ้ง

เมื่อสอบถามถึงเทรนด์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นายวิน กล่าวว่า ยอมรับว่าบริษัทมีการศึกษาเกี่ยวกับสินทรัพย์ประเภทดังกล่าว เพราะเป็นเทรนด์ที่ธุรกิจการเงินต่างขยับเข้าไปให้บริการลูกค้า แต่คาดว่าจะยังไม่เห็นความชัดเจนถึงขั้นออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ในระยะเวลาอันใกล้นี้