ฉะเชิงเทราล็อคพื้นที่ยาวนับเดือน อบจ.ถอดใจวัคซีน 'ซิโนฟาร์ม' ทำวุ่น

ฉะเชิงเทราล็อคพื้นที่ยาวนับเดือน อบจ.ถอดใจวัคซีน 'ซิโนฟาร์ม' ทำวุ่น

ล็อคพื้นที่ต่อเนื่องแบบยาวนานอีกนับเดือน ขณะ อบจ.ฉะเชิงเทรา ถอดใจในวัคซีน "ซิโนฟาร์ม" ทำวุ่น ทยอยส่งมาให้แบบกะปริดกะปรอย เผยหารือภายในเพื่อยกเลิกสั่งจองในที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการเผยแพร่ คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ครั้งที่ 47/2564 โดยมีนายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นประธาน ได้เห็นชอบให้ขยายเวลาในการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.ฉะเชิงเทรา ฉบับที่ 66 และ 69

เกี่ยวกับมาตรการในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต่อไปอีกเป็นเวลา 29 วันนับจากวันที่ 3-31 ส.ค.64 แต่ได้มีการปรับแก้ในส่วนเพิ่มเติม โดยให้ร้านอาหารในห้างสรรพสินค้าหรือผู้ค้าในลักษณะเดียวกัน สามารถเปิดให้บริการได้ในรูปแบบเดลิเวอรี่ โดยห้ามมิให้มีการจำหน่ายโดยตรงแก่ลูกค้าภายในร้าน

สำหรับในส่วนของมาตรการสำหรับคลัสเตอร์ในโรงงานอุตสาหกรรมนั้น ให้ดำเนินการตามมาตรการควบคุมโรค เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ต้องทำการบับเบิลแอนด์ซีลหรือจำกัดพื้นที่ตามแผนเผชิญเหตุ 4 แผนตามที่ ศบค.ฉะเชิงเทรา ได้เคยกำหนดไว้ ประกอบด้วยแผนคน คือ คนงานต้องควบคุมได้ ถ้าเป็นโรคแล้วต้องมีสถานที่รักษา และไม่ให้มีการออกไปแพร่ระบาดเชื้อได้ทั้งในครอบครัวหรือชุมชน

โดยยังต้องมีแผนในการเดินทางหรือซีลรูท ระหว่างที่พักกับสถานที่ทำงาน ที่จะต้องห้ามแวะไปยังในที่ใด และต้องมีระยะห่างเพียงพอระหว่างการเดินทาง จากนั้นเมื่อมาถึงยังโรงงานแล้วจะต้องมีจุดคัดกรองตามมาตรการทางด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด รวมถึงการบริโภคอาหาร ตลอดจนการใช้ห้องน้ำและการใช้สิ่งของร่วมกันของคนงาน หากมีผู้ติดเชื้อแล้วจะต้องมีศูนย์พักคอยหรือสถานที่ในการรักษา

"รวมถึงจะต้องมีศูนย์สำหรับกักตัว ให้ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงอยู่แต่ภายในโรงงานตลอดระยะเวลา 14 วันจนกว่าจะไม่มีการตรวจพบเชื้อ จึงจะสามารถกลับเข้ามาทำงานได้ตามปกติ โดยที่จะไม่มีการออกมายังภายนอกโรงงานอย่างเด็ดขาด หรือ เป็นการบับเบิลแอนด์ซีลในโรงงาน" นายไมตรี ระบุในที่ประชุม

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนถึงความอึดอัดใจ หลังจากที่ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์ม จากทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ว่า หลังจากทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์มไปแล้วจำนวน 1 แสนโดส เพื่อนำมาฉีดให้แก่ประชาชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จำนวน 5 หมื่นคน


แต่ในครั้งแรกกลับได้รับวัคซีนมาได้เพียงแค่ 5 พันคนหรือ 1 หมื่นโดส ทั้งยังมีข้อจำกัดไว้ที่จะต้องฉีดให้แก่ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงวัคซีนทางช่องทางต่างๆ ได้ ส่วนในครั้งต่อมาที่กำลังจะได้รับการจัดสรรมาให้นั้น ได้มีการระบุมาว่าจะได้รับมาเพิ่มเติมอีกเพียงแค่ 1,000 โดสหรือฉีดให้แก่ประชาชนได้แค่ 5 ร้อยคน ทั้งะยังไม่ทราบว่าวัคซีนจะมาถึงยังที่ จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อใด จึงรู้สึกอึดอัดใจมาก

ในขณะนี้จึงได้เตรียมที่จะพิจารณาหารือกันภายในกับหัวหน้าส่วนราชการที่รับผิดชอบ เพื่อหาแนวทางที่จะลดจำนวนการสั่งจอง หรือยกเลิกการสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์มจากทางราชวิทยาลัยฯ เนื่องจากได้ใช้เงินงบประมาณในการนำมาจัดสร้าง รพ.สนามใต้ร่มพระบารมี ที่ อ.บ้านโพธิ์ไปมากถึงกว่า 20 ล้านบาทแล้ว ขณะเดียวกันทางด้านรัฐบาลยังได้มีการจัดสรรวัคซีนเข้ามายังในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา เพิ่มมากขึ้นแล้วด้วย


"สำหรับในการสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์มนั้น ครั้งแรกตนมีความเข้าใจว่าจะได้รับมาพร้อมกันเพียงครั้งเดียว คือ จำนวน 1 แสนโดสเพื่อฉีดให้แก่ประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา ได้จำนวน 5 หมื่นคน แต่กลับได้รับมาเพียงครั้งละ 5 พันคนและ 500 คนตามลำดับนั้น ทำให้ถูกชาวบ้านใน จ.ฉะเชิงเทรา ต่อว่ามายัง อบจ.ฉะเชิงเทรา เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก" นายกิตติ กล่าว