พื้นที่ไหนได้ก่อน บุคลากร'จองวัคซีนไฟเซอร์'

พื้นที่ไหนได้ก่อน บุคลากร'จองวัคซีนไฟเซอร์'

สธ.เริ่มกระจายวัคซีนล็อตอเมริกาบริจาค 1.5 ล้านโดส คาดบุคลากรฯ ‘จองวัคซีนไฟเซอร์’ เป็นเข็ม 3 พื้นที่กทม.-ปริมณฑลถึงก่อน

เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า  กรมควบคุมโรค ได้เริ่มทยอยจัดส่งวัคซีนไฟเซอร์ ล็อตการบริจาคจากประเทศสหรัฐอเมริกาไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อฉีดเป็นบูสเตอร์โดส(Booster adose) หรือเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ทำงานด่านหน้าในการดูแลผู้ป่วยโควิด19แล้ว โดยวันที่ 4 ส.ค. 2564  เป็นการประสานกับ รพ.รามาธิบดี รพ.ศิริราช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หากพร้อมก็จัดส่งได้ทันที ส่วนในต่างจังหวัดประสานกับรพ.ในปริมณฑลแล้ว

 

 

     

ด้าน นพ.สุระ วิเศษศักดิ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธาน คณะทำงานด้านบริหารจัดการการให้บริการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กรณีวัคซีนโควิดไฟเซอร์ กล่าวว่า เริ่มมีการกระจายวัคซีนลงไปยังแต่ละพื้นที่ โดยคาดว่าพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จะได้รับวัคซีนก่อน ทั้งนี้ ทั่วประเทศจะได้รับวัคซีนครบทุกจังหวัด เพื่อเร่งฉีดเป็นเข็ม 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ทำงานด่านหน้า ซึ่งจะมีการทยอยส่งไปให้เบื้องต้น จะส่งไปจำนวน 50% ของบุคลากรที่ได้ลงชื่อตามความสมัครใจไว้ในแต่ละโรงพยาบาล คาดว่าน่าจะมีการฉีดพร้อมกันทั่วประเทศใน 2-3 วันนี้ แต่พื้นที่ไหนที่ได้รับวัคซีนแล้ว ก็สามารถฉีดก่อนได้เลย

        “เรื่องของความโปร่งใสของข้อมูลการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ ในแต่ละรพ. จะสามารถเช็กรายชื่อบุคลากรฯ ที่มีความประสงค์รับวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ได้ ส่วนประชาชนทั่วไปเองก็สามารถตรวจสอบข้อมูลนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากเมื่อมีการฉีดวัคซีนทุกโดส จะต้องมีการรายงานผลเข้ามาที่ MOPH IC ของสธ.”นพ.สุระ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบผ่านระบบหมอพร้อม ณ วันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลา 23.00 น. มีผู้ที่ได้รับเข็ม 3 เพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้ว 130,277 ราย ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เนื่องจากตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ให้มีการฉีดกระตุ้นเข็มที่ 3 แก่บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ดูแลผู้ป่วยโควิด19 ใน 2 ชนิดวัคซีน คือ แอสตร้าเซนเนก้า หรือไฟเซอร์ ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีแพลตฟอร์มการผลิตแตกต่างจากวัคซีนซิโนแวคที่บุคลากรฯได้รับครบ 2 เข็มแล้วที่เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตาย